×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

คอนโด 1 ห้อง จ่ายอะไรบ้าง?

8,730

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

หลายคนที่มีประสบการณ์กับการซื้อคอนโดมิเนียมคงรู้ดีว่าต้องมีเงินก้อนจำนวนหนึ่ง เพราะก้อนแรกที่ต้องจ่ายคือ เงินจอง ซึ่งจะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับโครงการ บางแห่งก็เก็บไม่กี่พันบาท บางแห่งก็เก็บระดับหมื่นบาท พอถึงวันทำสัญญาก็ต้องจ่ายอีก ซึ่งก้อนนี้ต้องจ่ายระดับหมื่นบาท บางโครงการเก็บเป็นแสนบาท แถมยังมีค่าใช้จ่ายระหว่างจุกจิกอีกพอสมควร เช่น ค่าประเมินราคา ค่าจดจำนอง ค่าประกันมิเตอร์น้ำ ไฟฟ้า

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ก่อนจะได้เป็นเจ้าของห้องคอนโดมิเนียมที่เลือกแล้วว่าดีที่สุดนับเป็นช่วงเวลาที่มีความสุข ดังนั้น จึงเต็มใจที่จะจ่ายเพื่อให้ได้เข้าไปอยู่อาศัยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ บางคนไม่ต่อรองกับเซลล์ขายโครงการแม้แต่บาทเดียว

 

แน่นอนว่า การจ่ายเงินเพื่อจองคอนโดมิเนียมและจ่ายค่าธรรมเนียมในช่วงเดือนแรกๆ เป็นค่าใช้จ่ายส่วนเล็กๆ เท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายหลักที่ต้องแบกไปอีกหลายสิบปี หรือ 20 กว่าปี จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อเริ่มต้นผ่อนให้กับธนาคาร

 

การมีคอนโดมิเนียม 1 ห้อง ไม่เพียงต้องมีหน้าที่จ่ายเงินผ่อนเท่านั้น ในแต่เดือนต้องควักกระเป๋าไปกับค่าใช้จ่ายอื่นๆ อีกหลายรายการ

 

ค่าผ่อน

เป็นเงินก้อนใหญ่สุดที่ในแต่ละเดือนจะต้องจ่ายให้แบงก์ที่ปล่อยกู้ซื้อคอนโดมิเนียมทุกๆ สิ้นเดือน ถ้าเป็นโครงการชานเมืองก็ผ่อนเดือนละไม่ถึงหมื่นบาท เช่น 7,000 บาท แต่ถ้าเป็นโครงการใจกลางเมืองหรือติดรถไฟฟ้าก็ต้องระดับหมื่นบาท เช่น 13,000 บาท ถ้าไม่จ่ายติดต่อกันสัก 2 – 3 งวด จะเห็นใบแจ้งเตือนส่งมาที่ตู้รับจดหมาย จากนั้นถ้ายังไม่จ่ายก็จะได้ยินเสียงหวานๆ จากเจ้าหน้าที่แบงก์มาถามถึงสาเหตุของการไม่จ่าย และในเดือนถัดไป เริ่มผ่อนอีกครั้ง ก็ต้องโดนค่าปรับโทษฐานไม่ผ่อนสม่ำเสมอ ซึ่งค่าปรับจะคิดดอกเบี้ยผิดนัด ส่วนจะมากน้อยขึ้นอยู่กับแบงก์นั้นๆ แต่บอกได้เลยว่าโหดพอสมควร

 

ค่าน้ำ ค่าไฟ

ถึงแม้จะไม่กี่ร้อยบาทแต่ก็ผิดนัดชำระไม่ได้เลย เพราะถ้าไม่จ่ายต้องโดนลงโทษ เริ่มจากโทษสถานเบา ตักเตือนทางจดหมาย ถ้าไม่จ่ายก็ต้องถูกตัดน้ำ ตัดไฟ โดยค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนนั้น ถ้าใช้ประหยัดๆ ก็ตกราวๆ 500 บาท แต่ถ้าเปิดแอร์นอนทุกคืนก็ไม่ต่ำกว่า 700 บาท ส่วนค่าน้ำ ชีวิตคนคอนโดมิเนียมคงรู้ดีว่าโดนเก็บ 3 เดือนต่อครั้ง ครั้งละราวๆ 300 บาท (ตกเดือนละ 100 บาท)

 

ค่าส่วนกลาง

ถึงโครงการที่อาศัยจะมีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส หนังสือพิมพ์ให้อ่าน สวนหย่อมขนาดย่อม แต่ไม่เคยไปใช้บริการแม้แต่ครั้งเดียว ก็ต้องจ่ายค่าส่วนกลาง บางโครงการเก็บครึ่งปีครั้ง บางแห่งก็เก็บปีละครั้ง ส่วนจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับขนาดห้อง จำนวนยูนิต หรือทำเลที่ตั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทะลุหมื่นบาท

 

ค่าจอดรถ

ใครไม่มีรถยนต์ก็ไม่ต้องจ่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วชาวคอนโดมิเนียมมักมีรถยนต์คนละคัน ดังนั้น แต่ละเดือนต้องจ่ายค่าที่จอดรถ เช่น 300 บาทต่อเดือน ถ้าไม่จ่ายก็ต้องไปหาที่จอดนอกโครงการ

 

ค่า Wi-Fi

ขาดไม่ได้เลยสำหรับชาวคอนโดมิเนียมที่ต้องมีสัญญาณ Wi-Fi เพื่อมาต่อกับอุปกรณ์สื่อสารสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อการทำงานและความบันเทิง อย่างน้อยๆ ต้องจ่าย 500 บาทต่อเดือน ถ้าต้องการความเร็วแบบสุดๆ ต้องเลือกแพ็กเกจพันบาทขึ้นไป

 

ความบันเทิง

ทุกวันนี้ ทีวีลดบทบาทลงเรื่อยๆ ชาวคอนโดมิเนียมมักสร้างความบันเทิงผ่านสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และเมื่อมี Wi-Fi แล้วก็ต้องมีแหล่งความบันเทิงทันสมัย และดูได้ตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่ห้องนอน ห้องครัว หรือแม้แต่ห้องน้ำ เช่น ถ้าสมัครสมาชิก Netflix แบบพื้นฐานต้องจ่าย 280 บาทต่อเดือน แบบมาตรฐาน 350 บาทต่อเดือน แบบพรีเมียม 420 บาทต่อเดือน

 

ค่าซักรีดเสื้อผ้า

ใต้คอนโดมิเนียมมักจะมีร้านซักรีดมาเปิดให้บริการ ถึงแม้โครงการจะติดตั้งเครื่องซักผ้าและตู้อบ แต่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ดังนั้น ต้องหันไปพึ่งพาบริการซักรีด ยิ่งเป็นหน้าฝนยิ่งขาดไม่ได้ โดยส่วนใหญ่จะคิดแบบเหมาจ่าย เช่น เสื้อผ้า 60 ชิ้น คิด 1,000 บาท

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats