×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

ค่าขาดประโยชน์ จากการใช้รถระหว่างซ่อม!

17,120

 

ใครเคยถูกรถชน หรือรถตัวเองไปชนคนอื่น คงมีความรู้สึกไม่ต่างกันว่า…แย่ โชคไม่ดี ไม่ยุติธรรม ดวงตก บลา บลา บลา เพราะแม้ว่ารถเราจะได้รับการซ่อมแซมให้กลับสู่สภาพเดิม แต่ยังไงก็ไม่เหมือนเดิม นอกจากจะเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ แต่ส่วนใหญ่บริษัทประกันก็ไม่ยอมเปลี่ยนให้ ทำแค่เคาะ พ่นสีใหม่ ซึ่งภายนอกอาจดูเหมือนเดิม แต่เวลาเราเอารถไปขายต่อ ร่องรอยการถูกชน เสียงเวลาเคาะ ก็มักทำให้รถเราขายไม่ได้ราคา ซึ่งประกันก็ไม่ได้จ่ายชดเชยให้ด้วย

 

หนักกว่านั้นหลายคนบ่นว่า ตอนรถเอาไปซ่อม ไม่มีรถใช้ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ต้องออกเองอีก!!

 

อ๊ะๆ อันนี้เข้าใจผิดแล้ว! เพราะความเป็นจริงคือ

 

เราสามารถ “เรียกค่าใช้จ่าย” จากการที่ไม่มีรถใช้ระหว่างซ่อม จากบริษัทประกันฝั่งคู่กรณีได้ 

 

หรือที่เรียกกันว่า “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม” ซึ่งโดยทั่วไป บริษัทประกันจะแค่ให้เราเอารถไปซ่อมกับอู่ของประกัน แล้วก็จบๆ กันไป แต่ไม่เคยบอกเราเรื่อง ค่าขาดประโยชน์ฯ เลย…อาจเพราะถ้าบอกแล้ว บริษัทประกันก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม

 

แล้วเราจะเรียกค่าขาดประโยชน์ฯ ได้ยังไงบ้าง?

 

เงื่อนไขข้อแรก คือ เราต้องเป็นฝ่ายถูกเท่านั้น

เงื่อนไขข้อสอง คือ รถฝั่งคนผิดต้องมีประกัน

จะเป็นประกันชั้น 1,2, หรือ 3 อะไรก็ได้ เพราะถ้าบริษัทประกันไม่จ่าย เรายังฟ้องสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ แต่ถ้ารถไม่มีประกัน ไม่รู้จะฟ้องใคร

 

บางคนอาจสงสัยอีกว่าเราสามารถให้บริษัทประกันฝ่ายเรา จ่ายค่าขาดประโยชน์ฯ ให้เราแทนได้หรือไม่ คำตอบก็คือ “ไม่ได้” เพราะค่าขาดประโยชน์ฯ ไม่ได้ระบุในกรมธรรม์!

 

วิธีการเรียก “ค่าขาดประโยชน์ฯ” 

 

โดยหากเราต้องการเรียกร้อง ค่าขาดประโยชน์ฯ จำเป็นต้องเก็บหลักฐานการเกิดอุบัติเหตุและการซ่อมให้มากที่สุด เช่น รูปถ่ายสภาพรถของเราและคู่กรณีหลังอุบัติเหตุ ใบเคลมที่ประกันคู่กรณีออกให้ กรมธรรม์ประกันรถของคู่กรณี สำเนาใบแจ้งซ่อม สำเนาเอกสารรายการซ่อม ใบรับรถส่งรถที่มีวันที่ชัดเจน ฯลฯ และแนบหนังสือเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ฯ ที่มีใจความสำคัญดังนี้

 

ค่าขาดประโยชน์ฯ ขึ้นอยู่กับการต่อรอง โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 500 บาทต่อวัน

 

#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

Related Stories

amazon anti fatigue mats