×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

“ตลาดหมี” ยังมีหุ้นดีให้ลงทุน

3,718

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

ตลาดหุ้นกำลังปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง บวกกับนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอย่างต่อเนื่อง และมีความกังวลว่าจะกลายเป็นตลาดหมี (Bear Market) นักลงทุนหลายคนมัก Play Safe คือขายออกไปก่อน และจะกลับมาอีกทีเมื่อมั่นใจว่าตลาดฟื้นตัว

 

กลยุทธ์ดังกล่าวถือว่าถูกต้อง เป็นการป้องกันการขาดทุน อย่างไรก็ตาม มีกลยุทธ์หนึ่งที่น่าสนใจกับการมองหาหุ้นในช่วงตลาดหมี นั่นคือ ซื้อหุ้นเน้นคุณค่า (Value Stock) ซึ่งวิธีการนี้วอร์เรน บัฟเฟตต์ มักใช้เป็นประจำ

 

“ผมเชื่อมั่นในการซื้อหุ้นแบบเน้นคุณค่า ผมไม่ได้ซื้อเพราะราคาหุ้นแต่ควรเลือกซื้อหุ้นดีในราคาเหมาะสม ที่สำคัญไม่ซื้อเพื่อเก็งกำไร ไม่ควรซื้อไล่ราคาในภาวะตลาดกระทิง และไม่ควรหวาดกลัวในภาวะตลาดหมี” กฎเหล็กการลงทุนข้อหนึ่งของบัฟเฟตต์

 

ถ้าพูดถึงการคัดเลือกหุ้นที่ดี มีความปลอดภัยสูงในช่วงตลาดหมีและผันผวน หนีไม่พ้นการมองหาหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ได้แก่ ไม่เคยขาดทุน อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) อยู่ในระดับน่าสนใจ และอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ต่ำ

 

1.การที่บริษัทมีผลประกอบการเติบโตดีต่อเนื่อง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร แสดงว่าสินค้ายังขายได้ดี คนยังซื้อใช้ เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้มีกำไรสุทธิเติบโตดีเช่นเดียวกัน และจะดีมากหากบริษัทนั้นในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี ที่ผ่านมา ไม่เคยขาดทุนสุทธิเลย

 

2.หากสนใจซื้อหุ้นในช่วงตลาดหมีหรือมีความผันผวน ควรมองหาหุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) สูงและต่อเนื่อง เนื่องจากตลาดผันผวน ราคาหุ้นย่อมผันผวนตามไปด้วย แต่ถ้าหุ้นตัวนั้นจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ นักลงทุนก็ยังได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล

 

3.P/E Ratio เป็นอัตราส่วนที่จะใช้ในการวิเคราะห์หุ้นตัวนั้นว่าถูกหรือแพง ซึ่งหุ้นคุณค่าที่น่าสนใจควรมีค่า P/E Ratio ไม่เกิน 10%
จากการสแกนหุ้น โดยใส่เงื่อนไขว่าบริษัทต้องมีกำไรสุทธิติดต่อกัน 5 ปีล่าสุด มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลมากว่า 5% และ P/E Ratio ล่าสุดไม่เกิน 10% พบว่ามีหุ้น 4 ตัวที่น่าสนใจ

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats