×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

3 คำถาม โค้งสุดท้าย LTF

2,976

 

เข้าสู่ 2 เดือนสุดท้ายของปี 2560 ตลาดหุ้นไทยยังคงวิ่งอยู่ในกรอบ 1,700 จุด และดูเหมือนจะขยับอยู่แถวๆ นี้จนถึงสิ้นปี ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรที่เหนือความคาดหมายเกิดขึ้น ดังนั้นใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อ LTF กันอยู่ก็บอกได้เลยว่าไม่ต้องรอจับจังหวะกันแล้ว สะดวกวันไหน ตอนไหน ก็ซื้อได้เลย เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดของการซื้อกองทุนนั้นไม่ใช่เรื่องของราคาดัชนีตลาดหุ้น แต่คือการเลือกกองทุนที่ดีและเหมาะกับเราต่างหาก

และนี่คือ 3 คำถาม ที่ถูกถามเข้ามามากที่สุด

 

1.ซื้อตอนนี้หรือรอสิ้นปีดี?

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ว่าถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นในช่วงนับต่อจากนี้ไปดัชนีตลาดหุ้นไทยจากวันนี้ถึงปลายปีคงไม่ได้มีความต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้นนักลงทุนที่กำลังกังวลว่าจะซื้อของแพงนั้นก็บอกๆได้เลยว่า ความต่างแถบจะไม่มี

สรุปได้ว่าถ้านักลงทุนท่านใดมีเงินพร้อมลงทุนก็เริ่มทยอยลงทุนได้เลย โดยเฉพาะสำหรับนักลงทุนที่ไม่อยากไปเบียดต่อคิวตามสาขาของธนาคารในช่วงสิ้นปี หรือนักลงทุนอาจจะแบ่งเงินออกเป็น 2 ส่วนก็ได้ สำหรับผู้ที่คิดว่าอยากจจะลองจับจังหวะการลงทุน

ตัวอย่างเช่น ส่วนที่ 1 คือ 50% ของเงินลงทุน LTF ทั้งหมดสามารถนำไปลงทุนได้ตั้งแต่วันนี้เลย และส่วนที่ 2 อีก 50% ก็ลองหาจังหวะวันที่ดัชนีหุ้นปรับตัวลงเข้าทำการลงทุน

 

2.LTF กองไหนดี?

นับตั้งปี 2559 มีเกณฑ์ใหม่ที่ทำให้ บลจ. ต่างๆ สามารถออกกองทุน LTF ใหม่เพิ่มเติมได้ จาก 52 กองทุนเดิม จนปัจจุบันนี้ทำให้ในอุตสาหกรรมกองทุนนั้นมีกองทุน LTF ให้เลือกลงทุนแล้วกว่า 77 กองทุน

ซึ่งตรงนี้เป็นข้อดีเพราะกองทุนที่ออกมาใหม่นั้นล้วนแล้วแต่เป็นกองทุน LTF ที่มี นโยบายการลงทุนแบบใหม่ๆ ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นกองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก (Mid&Small Cap) กองทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นผันผวนต่ำ เป็นต้น

ดังนั้นจากที่เราเคยมีเฉพาะ LTF ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ (Big Cap) มาโดยตลอดอยู่เต็มพอร์ตการลงทุน ซึ่งนั่นก็ถือเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งเพราะถือว่าเรามีการลงทุนแบบกระจุกตัว ปีนี้ก็ถือเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนอาจจะลองกระจายการลงทุนมายังกองทุน LTF ที่เน้นลงทุนในหุ้นขนาดกลางและเล็ก (Mid&Small Cap) หรือกองทุนนโยบายอื่นๆ เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนอีกทั้งยังถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการรับผลตอบแทนไปด้วยเช่นเดียวกัน

รายชื่อกองทุน LTF ที่เปิดใหม่นับตั้งแต่ปี 2559 เป็นต้นมา

 

3.LTF ปันผล หรือ ไม่ปันผล ?

คำถามนี้เป็นคำถามที่พบเจออยู่เป็นประจำและเป็นคำถามที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันผิดอยู่เสมอๆ ว่ากองทุนที่จ่ายเงินปันผลนั้น ดีกว่ากองทุนที่ไม่ได้จ่ายเงินปันผลหรือไม่ ซึ่งแท้จริงแล้วทั้ง 2 แบบ “ไม่มีข้อได้เปรียบเสีบเปรียบกันในเรื่องของผลตอบแทนแต่อย่างใด” แต่สิ่งที่ต่างกันคือ เรื่องของจุดประสงค์ในการลงทุนของผู้ลงทุนต่างหาก

โดยส่วนใหญ่กองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินเป็นผล จะเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการรายได้อย่างสม่ำเสมอ หรืออาจจะต้องการลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนไปในตัว แต่ทั้งนี้เงินปันผลที่ได้รับมาจะต้องถูกนำไปเสียภาษี ซึ่งต่างจากผู้ลงทุนที่เลือกลงทุนในกองทุนที่ไม่ได้จ่ายเงินปันผล ที่ไม่ต้องมีภาระภาษีตรงจุดนี้ทำให้กำไรที่ได้จากการลงทุนนั้นได้รับแบบเต็มๆ แต่ในเรื่องของการบริหารความเสี่ยง ผู้ลงทุนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง

 

หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย และทำให้ท่านมีความพร้อมมากขึ้นสำหรับการลงทุนในกองทุน LTF ประจำปีนี้

 

#WealthMeUp

 

กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

Related Stories

amazon anti fatigue mats