ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 23 ก.พ. 2561
“แจ๊คหม่า” ส่งทีมถกอีคอมเมิร์ซชุมชนไทย
กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา บริษัทอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ได้แต่งตั้ง น.ส.แองเจิ้ล เป็นหัวหน้าทีมคนใหม่ มาเจรจากับไทยในการจัดทำยุทธศาสตร์การลงทุนในเขตระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อขยายขอบเขตความร่วมมือพัฒนาอีคอมเมิร์ซมากขึ้น
โดยยุทธศาสตร์ใหม่เน้นความร่วมมือพัฒนาระดับชุมชนที่เน้นรายละเอียดการจัดทำโครงการชัดเจนมากขึ้น และจะมีความร่วมมือไม่น้อยกว่า 6-8 ด้าน เช่น พัฒนาทักษะการใช้อีคอมเมิร์ซยุคใหม่ที่อาจลงลึกถึงการออกแบบ (ดีไซน์) ทำให้คนช้อปออนไลน์มากขึ้น
ธปท.เตือนนักลงทุนเผชิญความเสี่ยงโลก
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การประเมินความเสี่ยงเศรษฐกิจมีความยากและซับซ้อนมากขึ้นในระหว่างช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา เช่น นับตั้งแต่เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมาก และผลตอบแทนพันธบัตรไม่ปรับเพิ่มขึ้นแม้ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแล้ว 4 ครั้ง จาก 0.5% เป็น 1.5% ตั้งแต่ปลายปี 2559
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดเงินโลกผิดปกติมาจากการทำนโยบายการเงินเชิงปริมาณ (คิวอี) ของธนาคารกลางหลายประเทศเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้สภาพคล่องล้นโลก สถานการณ์ดังกล่าวเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะจะเริ่มส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ปรับตัวเป็นขาขึ้นช่วงต้นปีนี้ ราคาอยู่ที่ 70 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าเมื่อมีเชลล์ออยล์ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าราคาน้ำมันจะสูงเกิน 60 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่ราคาน้ำมันก็ขึ้นกับการเก็งกำไรของนักลงทุน
คลัง เตรียมแก้ กม. คู่สัญญาซื้อบ้าน
สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า เตรียมเสนอร่างการแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.การดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญา พ.ศ. 2551 ให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบในเร็ว ๆ นี้ หลังจากเปิดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สำหรับสาระการแก้ปรับปรุงกฎหมาย จะให้สถาบันการเงิน หรือผู้ประกอบกิจการทำหน้าที่เป็นตัวกลางดูแลให้คู่สัญญาปฏิบัติตามสัญญาที่ตกลงกัน เช่น การดูแลให้ผู้ซื้อได้รับทรัพย์สิน และผู้ขายได้รับเงินตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้
นอกจากนี้ ผู้ดูแลผลประโยชน์ของคู่สัญญาทำหน้าที่ดูแลรักษาเฉพาะเงิน ทรัพย์สิน หรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งหนี้เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งตามความต้องการของคู่สัญญา และเปลี่ยนแปลงการชำระเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
สต็อกเรดาร์ เปิดขายเงินดิจิทัล 400ล.
สต็อกเรดาร์ ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่น สต็อกเรดาร์ สำหรับวิเคราะห์และติดตามราคาหุ้น เตรียมระดมทุนด้วยวิธีเสนอขายเหรียญดิจิทัลให้คนทั่วไป (ไอซีโอ) ภายใต้ชื่อ คาร์บอเนียม โทเคน จำนวน 12 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 400 ล้านบาท คิดเป็น 120 ล้าน โทเคน เสนอขายหน่วยละ 0.10 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณโทเคนละ 3.30 บาท
ทั้งนี้ เงินที่ระดมทุนจะนำไปใช้พัฒนาระบบโซเชียล เทรดดิ้ง ผ่านคอยน์เรดาร์ ซึ่งเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลตามการซื้อขายของผู้เชี่ยวชาญด้านเทรดดิ้งโดยอัตโนมัติ โดยจะเสนอขายวันที่ 22 มี.ค. นี้ และเปิดขายจริง 22 เม.ย.
อิหร่านเตรียมออกเงินดิจิทัล ตามรอยเวเนฯ
อิหร่านกำลังพิจารณาพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง หลังจากเวเนซุเอลาออกสกุลเงิน “petro” โดยธนาคารโพสต์แบงก์ของทางการอิหร่านกำลังพัฒนาสกุลเงินดังกล่าว ซึ่งจะอิงกับระบบคลาวด์ ส่วนธนาคารกลางอิหร่านก็กำลังให้ความร่วมมือกับสถาบันอื่นๆในการควบคุมสกุลเงินดิจิทัล
ทั้งนี้ สกุลเงิน “petro” เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับการหนุนจากน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาโดยมีวงเงิน 100 ล้านโทเคนและมูลค่ารวมมากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา: โพสท์ทูเดย์, อินโฟเควส์, เดลินิวส์
ภาพ: politics.kachon