×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

ชี้เป้า “ลงทุน” กลางวิกฤติค่าเงินตุรกี

4,890

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจกันในช่วงนี้ คงหนีไม่พ้นประเด็นค่าเงินสกุลลีราตุรกี ซึ่งอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงจากต้นปีซึ่งอยู่ที่ 3.8 ลีราต่อดอลลาร์สหรัฐ ปัจจุบันอยู่ที่ระดับประมาณ 6.8 ลีราต่อดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูล ณ  วันที่ 13 สิงหาคม 2561)

 

เรามาทำความเข้าใจกันว่า วิกฤตินี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และหุ้นของประเทศไหนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้ปรับพอร์ตการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ค่าเงินลีราตุรกีอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยตุรกีเป็นประเทศที่มีสถานะการเงินที่อ่อนแอ เพราะมีทั้งปัญหาการขาดดุลการคลัง การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่ต่ำ ดังนั้น เมื่อสหรัฐฯ ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้อย่างชัดเจน ประเทศตลาดเกิดใหม่อย่างตุรกีที่มีสถานะการเงินอ่อนแอจึงเกิดปัญหาค่าเงินอ่อนค่าที่รุนแรงกว่าประเทศอื่น

Source: CNBC

 

ค่าเงินลีราตุรกีอ่อนค่าลงอย่างรุนแรงในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้ว เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียมจากตุรกีขึ้นเป็น 2 เท่า หลังจากที่การเจรจาทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และตุรกีล้มเหลว

 

การอ่อนค่าลงของค่าเงินลีราตุรกีจะส่งผลให้ความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทในตุรกีที่มีการกู้ยืมเงินจากต่างประเทศอ่อนแอลง เพราะบริษัทเหล่านี้ต้องชำระหนี้เป็นจำนวนเงินที่มากขึ้น โดยธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นนี้

 

ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ระบุว่า ธนาคารของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และหลายประเทศในยุโรปอย่างอังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส และอิตาลี มีการปล่อยสินเชื่อให้ตุรกี

 

ดังนั้นผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงคือ การปรับตัวลงของหุ้นในกลุ่มธนาคารของประเทศที่มีการปล่อยสินเชื่อให้ตุรกี ส่วนการปรับตัวลงของตลาดหุ้นในประเทศต่างๆ น่าจะเรียกได้ว่า เป็นผลกระทบทางอ้อม โดยตลาดหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ได้รับผลกระทบทางลบที่รุนแรงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว เพราะนักลงทุนไม่มั่นใจว่า การอ่อนค่าของสกุลเงินลีราจะกระทบกับค่าเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ด้วยหรือไม่

 

สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงในการลงทุนได้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทยจากเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นโอกาสที่ดีในการทยอยสะสมหุ้นไทยระยะยาว หรือกองทุน LTF เพราะแม้ว่าไทยเป็นประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ แต่ไทยมีสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง โดยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมาต่อเนื่อง 4 ปี และมีทุนสำรองระหว่างประเทศในระดับสูง จึงน่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาค่าเงินลีราอ่อนค่าไม่มากนัก

 

ส่วนผู้ที่สนใจลงทุนกองทุนหุ้นต่างประเทศ การลงทุนกองทุนหุ้นของประเทศตลาดเกิดใหม่ ควรทยอยลงทุนในประเทศที่มีสถานะการเงินที่แข็งแกร่งและราคาหุ้นไม่แพงอย่างจีน

 

ส่วนประเทศพัฒนาแล้ว หากต้องการลงทุน ควรหลีกเลี่ยงหุ้นในกลุ่มสถาบันการเงินไปก่อน เพื่อให้มั่นใจว่า สถาบันการเงินเหล่านี้จะไม่พบกับปัญหาการผิดนัดชำระหนี้จากบริษัทในตุรกี

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats