ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 11 ส.ค. 6O
อสังหาเฉากำไรหด “ตลาดกลาง-ล่าง” อ่วมหนักขาดกำลังซื้อ
ผู้ประกอบการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ทยอยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ของปีนี้ โดย 4 บริษัทแรกที่ประกาศออกมากำไรรวมอยู่ที่ 2,632 ล้านบาท ลดลง 23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ครึ่งแรกปีนี้มีกำไร 4,428 ล้านบาท ลดลง 31%
บริษัทที่มีผลประกอบการ ลดลงมากที่สุด ได้แก่ บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ รองลงมาคือ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ มี และบริษัท ศุภาลัย ด้านบริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ สวนทางมีกำไรเพิ่มขึ้น 33%
ชี้ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจภาพรวมที่ยังไม่ฟื้นตัวดี หนี้ครัวเรือนสูงและสถาบันการเงินเข้มงวดการให้สินเชื่อ เห็นได้จากปริมาณการปฏิเสธให้กู้ที่เพิ่มขึ้นอย่าง ต่อเนื่อง ทำให้ขายบ้านและคอนโดมิเนียมได้ แต่โอนไม่ได้
หวั่นปล่อยผีคอร์รัปชันคืนชีพ
ม.หอการค้าไทยเผยดัชนีคอร์รัปชันไทยเดือน มิ.ย.60 อยู่ที่ 53 คะแนน สูงขึ้นจากการสำรวจครั้งก่อน ยอมรับห่วงสถานการณ์ในอนาคตรุนแรงหลังรัฐเร่งดันลงทุนก่อสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ-อีอีซี ล่าสุดพบเอกชนจ่ายสินบนเพิ่มขึ้น 25-35% เพื่อให้ได้งาน
ส่งออกตลาดจีนมาแรงแซงทางโค้ง
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกับภาคเอกชน เช่น สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) เห็นตรงกันว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าไทยปี 60 จะขยายตัวได้มากกว่า 5% จากเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ที่ 5% เมื่อเทียบกับปีก่อน
สาเหตุที่ทำให้แนวโน้มส่งออกขยายตัวดีขึ้นเป็นผลมาจากเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว โดยสินค้าที่ส่งออกขยายตัวคือ กลุ่มอาหารและอุตสาหกรรมอาหาร โดยเฉพาะกุ้งสดแช่แข็งและแปรรูป ส่วนยางพาราและผลิตภัณฑ์กรมฯได้จัดเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ซื้อต่างประเทศและผู้ส่งออกไทยซึ่งได้รับผลดีมียอดสั่งซื้อกว่า 15,000 ล้านบาท
ลุยแก้คอขวด “BTS ตากสิน” เร่งเปิดบริการปี 62
กระทรวงคมนาคมจับมือ กทม. และบีทีเอส หารือเรื่องการแก้ไขปัญหา คอขวดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสะพานตากสิน ซึ่งเกิดจากทางเดินรถที่มีลักษณะเป็น ทางเดี่ยว ส่งผลให้รถไฟฟ้าสายสีลม ต้องรอสับหลีกก่อนเข้าและออกสถานี
โดยที่ประชุมมีมติว่าจะไม่ย้ายหรือทุบสถานีสะพานตากสินเพื่อแก้ปัญหา แต่จะใช้วิธีการปรับปรุงทางเดินรถให้เป็น ทางคู่ เพื่อให้รถไฟฟ้าวิ่งสวนกันได้ การดำเนินโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการรถไฟฟ้า แบบเต็มรูปแบบได้ช่วง ธ.ค. ปี 2562
สงครามวาทะ”เกาหลีเหนือ-สหรัฐ”กดดัชนีหุ้นทั่วโลก”ร่วง”
ดัชนีหุ้นทั่วโลกร่วงลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน และนักลงทุนพากันกลับเข้าไป ลงทุนในแหล่งสวรรค์ของการลงทุน อย่าง เงินฟรังก์สวิส เยน และทองคำอีกครั้ง จากการที่เกาหลีเหนือเพิ่มความตึงเครียดให้กับสถานการณ์โลกอีกครั้ง ด้วยการขู่ที่จะใช้ขีปนาวุธโจมตีเกาะกวม ดินแดนในแปซิฟิกของสหรัฐ
สงครามวิวาทะที่เกิดขึ้นเมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ สร้างความตกตะลึงให้โลก ด้วยการประกาศเตือนเกาหลีเหนือว่าการกระทำใดๆ อันเป็นภัยคุกคามต่อ สหรัฐ จะต้องเจอกับไฟนรกและเพลิงแค้นในแบบที่โลกไม่เคยเห็นมา ด้านรัฐบาลเปียงยาง ต้องตอบโต้ด้วยประกาศแผนยิงขีปนาวุธ 4 ลูก โจมตีเกาะกวมในช่วงกลางเดือนส.ค.
ที่มา: ไทยรัฐ, โพสต์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ
ภาพ: ทําเลดี
