ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 18 ก.ย. 256O
อัดแคมเปญดันยอดรูดบัตร “แบงก์” แข่งเดือดจัดงบกระตุ้นท้ายปี
“บัตรเครดิต” ทุ่มงบจัดแคมเปญส่งท้ายปีหวังกระตุ้นยอดใช้จ่ายผ่านบัตร “กสิกรไทย” ให้เครดิตเงินคืนสูงสุด 20% ขณะกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ จัดโปรผ่อน 0% นาน 20-24 เดือน ในหมวดสินค้าที่ยอดใช้จ่ายสูง ได้แก่ กลุ่มมือถือ อะไหล่รถยนต์
ขณะ ซิตี้แบงก์ เน้นตามไลฟ์สไตล์ลูกค้า รับของสมนาคุณ รวมถึงเครดิตเงินคืน ด้าน “เคทีซี” รุกการตลาดแบบไร้ข้อจำกัด ด้วยแคมเปญการตลาดแบบผสมผสานที่ครอบคลุมทุกหมวดการใช้จ่ายหลัก ส่งผลให้สมรภูมิการแข่งขันเดือด
THAIพร้อมใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นNOK
การบินไทย (THAI) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมที่จะใช้สิทธิ์เพิ่มทุนใน บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) หลังจากที่ NOK ประกาศเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering) จำนวน 1,135.99 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.50 บาท ซึ่งปัจจุบัน THAI ถือหุ้นในสายการบินนกแอร์สัดส่วน 21.57%
ทั้งนี้ จะต้องรอดูความชัดเจนแผนปรับโครงสร้างและแผนฟื้นฟูของ NOK ที่จะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ในวันที่ 20 ก.ย.2560 รวมทั้งรอการอนุมัติจากบอร์ดของ THAI ในวันเดียวกันด้วย
สินค้าขยับรับภาษี บุหรี่เพิ่มซองละ2-15บาท สุราขึ้น8-30บาท ชา-กาแฟ1-2บาท รัฐรับ1.2หมื่นล.
ภายหลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สรรพสามิต พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 จะทำให้รายได้จากการจัดเก็บภาษีตามอัตราใหม่ปรับเพิ่มขึ้น 2% หรือประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท
สินค้าต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากภาษีจะยังขายราคาเดิมไปอีก 2 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นสินค้าที่มีรอบผลิตก่อนวันที่ 16 ก.ย. ยังเสียภาษีสรรพสามิตอัตราเดิมอยู่
สำหรับวิธีการสังเกตว่าสินค้าใด เป็นสินค้าเก่าและต้องมีราคาเท่าเดิม ขอแนะนำให้ดูวันที่ผลิตของสินค้า รวมถึงให้ดูอากรแสตมป์ที่จะมีการระบุวันที่เสียภาษีอย่างชัดเจน หากผลิตหรือติดอากรแสตมป์ก่อนวันที่ 16 ก.ย. จะต้องขายในราคาเดิม
แทรกค่าเงินบาททุนสำรองเพิ่มอีก
ธปท.เผยทุนสำรองเพิ่มอีก หลังใช้ดูแลตลาดชะลอเงินบาทแข็งค่า คาดปีหน้าแข็งค่า 32 บาท/ดอลลาร์
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานทุนสำรองล่าสุด 8 ก.ย. 2560 อยู่ที่ระดับ 1.993 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 6.591 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 3,100 ล้านดอลลาร์ ด้านฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิอยู่ที่ 3.23 หมื่นล้านดอลลาร์
ส่งผลให้ทุนสำรองประเทศสุทธิที่รวมเงินสำรองระหว่างประเทศและฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิแล้วอยู่ที่ระดับ 2.316 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 3.39 หมื่นล้านดอลลาร์
“ทรัมป์” ต่อสายตรงปธน.เกาหลีใต้ เห็นพ้องกดดันเกาหลีเหนือมากขึ้น
เป็นเวลากว่า 25 นาที ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ และประธานาธิบดีมูน แจ อิน ของเกาหลีใต้ ได้เห็นพ้องต้องกันในระหว่างการพูดคุยทางโทรศัพท์ ถึงเรื่องการกดดันเกาหลีเหนือเพิ่มเติมผ่านมาตรการคว่ำบตร หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบระเบิดไฮโดรเจนเมื่อวันที่ 3 ก.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ปธน.สหรัฐและเกาหลีใต้ รวมทั้งนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นจะพบปะกันอีกครั้งในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ณ ที่ประชุมขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งคาดว่า ประเด็นเรื่องวิธีการกดดันเกาหลีเหนือให้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธ จะเป็นประเด็นหลักในการประชุม
ที่มา: โพสต์ทูเดย์, อินโฟเควส์, ไทยรัฐฯ, กรุงเทพธุรกิจ
ภาพ: wealthmeup