ข้อควรรู้ก่อนเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต
แม้ว่าประกันชีวิตจะเป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่มีประโยชน์ แต่เพราะคนไทยหลายคนยังมีทัศนคติที่ไม่ดีกับประกันชีวิต คิดว่า จ่ายแล้วสูญ ผลตอบแทนน้อย ไม่ตายง่าย หรือ กลัวเป็นการแช่งตัวเอง ฯลฯ ทำให้ตัวแทนประกันชีวิตขายประกันชีวิตได้ยาก
ดังนั้นกลยุทธ์หนึ่งที่ตัวแทนประกันชีวิตบางคนใช้ ก็คือ การแนะนำให้ผู้ถือกรมธรรม์ประกันชีวิตยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตเดิมแล้วมาซื้อประกันชีวิตใหม่กับตนเอง โดยให้เหตุผลว่าลูกค้าไม่ต้องจ่ายเบี้ยเพิ่ม หรือจ่ายเพิ่มแต่น้อย หรือ อาจจ่ายน้อยลงด้วยซ้ำ แต่ได้ประกันชีวิตใหม่ที่ดีหรือเหมาะสมกว่าประกันชีวิตตัวเดิม โดยให้ข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนและไม่บอกข้อเสียของการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตสร้างผลเสียให้กับผู้ที่หลงเชื่อไปมากมาย จนคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ต้องออกมาเตือนให้ระวังการกระทำดังกล่าว
พูดถึงตรงนี้ หลายท่านคงอยากรู้การเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตจริงๆแล้ว มีข้อเสียอะไรบ้าง
1.ยิ่งขอยกเลิกเร็ว ยิ่งขาดทุน
ถ้าจะยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต ผู้เอาประกันมีสิทธิขอยกเลิกสัญญาและเวนคืนเงินประกันภายใน 15 วันหลังจากเซ็นรับเอกสารกรมธรรม์ประกันชีวิตโดยได้รับเงินที่ชำระไปคืนแต่อาจเสียค่าธรรมเนียมบ้าง แต่หากเลย 15 วันไปแล้ว ถ้าอยากเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต เราอาจจำเป็นต้องรอให้พ้นระยะเวลาที่กรมธรรม์ประกันชีวิตระบุก่อน (แล้วแต่กรมธรรม์ประกันชีวิตระบุอาจเป็น 1 ปี หรือ 2 ปีก็ได้) หากยกเลิกในช่วงที่ระบุนี้ผู้เอาประกันจะไม่ได้เงินคืนเลย
และเมื่อเกินช่วงที่ระบุแล้วผู้เอาประกันมีสิทธิขอยกเลิกสัญญาและเวนคืนเงินกรมธรรม์ประกันชีวิตได้ เงินที่เราจะได้คืน เรียกว่า เงินเวนคืน โดยทั่วไปแล้วจะน้อยกว่าเบี้ยที่จ่ายไปทั้งหมด พูดง่ายๆ คือ เราขาดทุนนั่นเอง และยิ่งเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตเอาเงินคืนเร็วเท่าไหร่ จะยิ่งขาดทุนมากขึ้นเท่านั้น จะหาตัวเลขมูลค่าเงินเวนคืนได้ไม่ยาก ก็ดูจากตารางมูลค่ากรมธรรม์ประกันชีวิตในกรมธรรม์ประกันชีวิตประกันชีวิตที่เรามีอยู่นั่นแหละ
2.ซื้อประกันตัวใหม่ จ่ายเบี้ยแพงขึ้น
การซื้อประกันชีวิตตัวใหม่ ก็ต้องจ่ายเบี้ยประกันแพงขึ้น เพราะยิ่งเราอายุเยอะ เบี้ยยิ่งแพง และเนื่องจากเบี้ยประกันชีวิตจะเป็นอัตราคงที่ คือ ปีแรกจ่ายเบี้ยเท่าไหร่ ก็จ่ายเท่านั้นตลอดอายุกรมธรรม์ประกันชีวิต ดังนั้น ไม่ใช่แพงกว่าเดิมแค่ปีเดียว แต่แพงกว่าหลายๆ ปีเลย
3.ประกันตัวใหม่ ความคุ้มครองอาจน้อยลง
เวลาทำประกันชีวิตใหม่ ไม่ใช่ว่าบริษัทประกันชีวิตจะรับทำประกันง่ายๆ เพราะถ้าเรามีปัญหาสุขภาพ บริษัทประกันชีวิตก็อาจไม่รับ หรือถ้ารับก็เพิ่มเบี้ย หรือยกเว้นไม่คุ้มครองความเสียหายจากโรคที่เป็นอยู่ ขณะที่ประกันชีวิตตัวเดิมให้ความคุ้มครองทุกอย่างเหมือนเดิม ไม่ยกเว้น
แต่ไม่ใช่ว่าการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตเก่าจะไม่ดีทุกกรณี บางกรณีการยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิตเก่าเป็นสิ่งที่ควรทำ อย่างเช่น เราอาจไม่มีเงินมากพอที่จะชำระเบี้ย หรือ เราพิจารณาแล้วประกันชีวิตแบบใหม่ที่จะซื้อเหมาะสมกว่า อย่างเช่น เดิมเราซื้อประกันชีวิตแบบ high saving ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก คือ เบี้ยเท่ากับทุน ให้เงินคืนต่อปีพอๆ กับดอกเบี้ยเงินฝากแต่ไม่ต้องเสียภาษี แต่ตอนนี้ เราต้องการประกันชีวิตแบบตลอดชีพที่มีทุนคุ้มครองชีวิตมากๆ การยกเลิกประกันชีวิตตัวเก่ามาซื้อตัวใหม่ ก็เป็นเหตุผลที่สมควร แต่อย่างไรก็ตาม การพิจารณาว่าควรยกเลิกหรือไม่ ควรพิจารณาข้อมูลให้ครบถ้วน รอบด้าน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือสำนักงาน คปภ.
หากใครพบตัวแทนที่มีพฤติกรรมหลอกให้ลูกค้ายกเลิกกรมธรรม์เดิม โดยบอกข้อมูลไม่หมด หรือมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถ โทร. สายด่วน คปภ. 1186
กด Subscribe รอเลย…
