อีสท์สปริงซื้อ TMBAM คนไทยได้อะไร?
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
“ประเทศไทย” เป็นตลาดกองทุนรวมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างเห็นได้ชัดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา
ยืนยันได้จากสถิติที่ว่า…ช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินในเอเชีย (ต้มยำกุ้ง) มีมูลค่าเพียง 1 แสนล้านบาท ปัจจุบันมีมูลค่า 5 ล้านล้านบาท หรือเติบโตถึง 50 เท่า
โดยในจำนวน 5 ล้านล้านบาทนี้ พบว่าประมาณ 1 ล้านล้านบาทเป็นการนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ
เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดเงินฝากนั้นพบว่า ก่อนวิกฤต มีมูลค่า 3 ล้านล้านบาท เพิ่มเป็น 7 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน ทว่าอัตราผลตอบแทนหรือดอกเบี้ยออมทรัพย์ลดจากประมาณ 5% เหลือแค่ราวๆ 0.5% ต่อปีเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม แม้ตลาดกองทุนรวมจะเติบโตแรงขนาดนี้ แต่…มีคนไทยแค่ 20% กว่าๆ เท่านั้นที่เป็นลูกค้ากองทุนรวม และส่วนใหญ่ยังกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มชนชั้นกลาง-บน และผู้บริโภคกลุ่มบนเท่านั้น
การเข้ามาถือหุ้นของบลจ.ทหารไทย (TMBAM) สัดส่วน 65% โดยอีสท์สปริง อินเวสท์เมนทส์ (eastspring investments) บริษัทจัดการกองทุนในเอเชียของกลุ่มบริษัทพรูเด็นเชียล (Prudential) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?
นายนิค นิแคนดรู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล คอร์ปอเรชั่น เอเชีย กล่าวว่า กองทุนรวมเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีความสำคัญต่อการออมเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่ง และเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณอายุได้เป็นอย่างดี และตั้งเป้าหมายว่า การเป็นพันธมิตรกับ TMBAM ครั้งนี้จะเปิดโอกาสให้คนไทยมีโอกาสการลงทุนที่หลากหลายมากกว่าเดิม
โดยการทำงานหลังจากนี้จะเน้น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การสร้างโซลูชั่นการลงทุนที่ยอดเยี่ยม (Best in Class) ทั้งจากกลยุทธ์การลงทุนที่มีอยู่แล้วของอีสท์สปริงหรือการพัฒนาขึ้นมาใหม่ การผสานการทำงานร่วมกันของทีมงานด้านการลงทุน และการเสริมสร้างช่องทางการจัดจำหน่ายโดยการประยุกต์ใช้นวัตกรรมและโซลูชั่นดิจิทัล
ขณะที่ นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบี กล่าวเสริมว่า คนไทยมีวินัยการออมอยู่ในระดับดีพอใช้ โดยการลงทุนในกองทุนรวมยังค่อนข้างอยู่ในกลุ่มคนระดับกลางถึงบน ซึ่งทางทีเอ็มบีต้องการให้ครอบคลุมคนส่วนใหญ่มากขึ้น
ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีจะสนับสนุนกลยุทธ์ของ TMB Open Architecture ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการจากผู้ให้บริการหลายราย พร้อมคาดหวังว่าจะทำให้บริษัทสามารถนำกองทุนรวมไปสู่มือผู้บริโภคได้โดยมีต้นทุนถูกลง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความมั่งคั่งให้คนไทยในระยะยาว
สำหรับจุดเด่นของ Open Architecture คือการที่ TMBAM สามารถคัดสรรผลิตภัณฑ์กองทุนรวมที่มีผลตอบแทนดีจากผู้ให้บริการหลายรายและเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายมานำเสนอแก่ลูกค้า โดยลูกค้าเป็นผู้ตัดสินใจเลือกลงทุนเอง ซึ่งการร่วมมือกับอีสท์สปริงฯ จะทำให้ลูกค้าคนไทยมีทางเลือกกองทุนรวมที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกเหนือเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่ลงทุนในประเทศไทยที่มีอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 TMBAM บริหารสินทรัพย์ประเภทต่างๆ มูลค่ากว่า 4.22 แสนล้านบาท
