เลิกประหยัด (ผิดๆ)
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย อยากจะประหยัดเงิน แต่ถ้าประหยัดแบบผิดๆ อาจทำให้เสียในระยะยาว มากกว่าได้ก็ได้ ลองสำรวจตัวเองดูว่า ทำแบบนี้บ้างหรือเปล่า ถ้ายังทำอยู่ น่าจะถึงเวลาลด ละ เลิก แล้ว
ขับรถเก่า
หลายคนขับรถเก่าอายุหลายสิบปี เพราะไม่มีเงินซื้อรถใหม่ หรือคิดว่าถึงเก่าแต่ยังใช้งานได้อยู่ แต่ถ้ารถเก่ามันเก่าเกินไป อาจทำให้คนขับต้องมีค่าใช้จ่ายพิเศษเพิ่มเติมในระยะยาว เช่น ค่าซ่อมบำรุง ดังนั้นถ้าไม่มีเงินซื้อรถป้ายแดง แต่จำเป็นต้องใช้รถจริงๆ น่าจะลองหารถมือสองสภาพดีมาใช้ดีกว่า
ชอบของเซลล์
เวลาเห็นป้ายเซลล์ บางคนอดใจไม่ไหว ยิ่งลดกระหน่ำเท่าไหร่ก็ยิ่งรีบพุ่งเข้าไป เพราะคิดว่าได้ซื้อของถูก แต่หลายร้านค้าไม่ได้ลดราคาจริงๆ เหมือนที่นักช้อปคิด เพราะเป็นการลดจากราคาที่ตั้งสูงกว่าที่ควรจะเป็นต่างหาก แทนที่จะได้ของถูกของดี กลับได้ของถูกแบบหลอกๆ เสียนี่
ฝากออมทรัพย์
หลายคนเชื่อว่า การฝากเงินบัญชีออมทรัพย์คือวิธีเก็บเงินที่ดีที่สุด และหลายคนก็รู้ดีว่า อัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ต่ำมาก และยิ่งถ้าต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อแล้วละก็ เท่ากับว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทำให้เงินของคุณลดลงเมื่อเทียบกับเงินเฟ้อ ถ้าอยากให้เงินทำงานงอกเงยขึ้นมา จึงควรหันมาลงทุนประเภทอื่น เช่น ซื้อกองทุนรวม ซื้อหุ้น หรือพันธบัตร หรือเลือกฝากเงินแบบประจำ ที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
ซื้อของเพิ่มเพื่อค่าส่งฟรี
บางคนซื้อของออนไลน์มากกว่าที่ตัวเองต้องการ เพราะไม่อยากเสียค่าบริการส่งสินค้า เช่น ซื้อสินค้าครบ 2,000 บาท ร้านค้าจึงจัดส่งสินค้าให้ฟรีถึงบ้าน แม้ของที่ตัวเองอยากได้จริงๆ ราคาแค่ 1,500 บาท ก็ต้องจำใจซื้อของอื่นเพิ่มอีก 500 บาท เพื่อให้ร้านส่งฟรี ทั้งที่ความจริงค่าจัดส่งแค่ 200 บาทเท่านั้น คราวหน้าเห็นโปรโมชั่นแบบนี้ ต้องดูให้ดีว่า แบบไหนจะคุ้มกว่ากัน
เมินตรวจสุขภาพประจำปี
เชื่อเลยว่า คุณอาจรู้จักคนรอบข้างบางคน หรือแม้กระทั่งอาจเป็นตัวคุณเองที่ไม่ยอมไปตรวจสุขภาพประจำปี หรือตรวจฟันประจำปี เพราะไม่อยากเสียเงิน หรือกลัวหมอ แต่รู้ไหมว่า การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นประโยชน์ เพราะถ้าสุขภาพมีปัญหา ก็จะตรวจรู้แต่เนิ่นๆ สามารถรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่ปัญหาจะลุกลามบานปลาย ซึ่งสุดท้ายนอกจากเสียเงินมากกว่าแล้ว อาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ด้วย
ไม่อยากเสียมากกว่าได้ ก็ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเลิก “ประหยัด” (แบบผิดๆ) เสียที!
ที่มา: https://www.inc.com