1O กองทุนรวมหุ้นจีน ผลตอบแทนแจ่ม
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ช่วงวิกฤติ COVID-19 ตลาดหุ้นจีนปรับลดลงไปประมาณ 15% แต่วันนี้เริ่มฟื้นตัวกลับมาได้แล้ว 10% แน่นอนว่าในระยะสั้น ประเมินได้ยาก แต่ในระยะยาวเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนจะฟื้นอย่างมั่นคง
ปัจจุบัน นักลงทุนประเมินว่าเศรษฐกิจจีนได้ผ่านพ้นช่วงจุดต่ำสุดไปแล้ว เนื่องจากมาตรการภาครัฐและความร่วมมือจากประชาชน ทำให้เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ที่เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิต การบริโภค การดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว
วิเวียน หงึ (Vivien Ng) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนจากกองทุน UBS (Lux) Investment SICAV-China A Opportunity ให้ความเห็นว่าปัจจัยขับเคลื่อนการเจริญเติบโตของจีนยุคใหม่มีอยู่ 4 ปัจจัย คือ การบริโภคเพิ่มขึ้น การขยายตัวของเมือง นวัตกรรมและเทคโนโลยี และการก้าวสู่สังคมผู้สูงวัย
การเติบโตของเศรษฐกิจจีนยุคใหม่ สะท้อนจากการเติบโตของตลาดหุ้น A Share (ดัชนี A-Share เป็นดัชนีที่คำนวณจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และตลาดหุ้นเซินเจิ้น โดยมีการซื้อขายเป็นสกุลเงินหยวน) โดยปัจจุบันเป็นตลาดหุ้นที่สามารถฟื้นตัวได้รวดเร็วเป็นอันดับ 2 ของตลาดโลก เป็นรองแค่ตลาด Nasdaq เท่านั้น
ความน่าสนใจของตลาดหุ้น A Share อยู่ที่ราคาตลาดยังถือว่าไม่แพง โดยมี P/E Ratio ระดับ 12.4 เท่า ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นๆ ทั่วโลก เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 20 เท่า “ตลาดหุ้น A Share จึงเหมาะกับการลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว” วิเวียน หงึ กล่าว
ประเด็นสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจและหันมาจับตาการลงทุนในตลาดหุ้นจีน A-Share มากขึ้น ผู้จัดการกองทุน บลจ.ทหารไทย ให้ความเห็นว่าอยู่การที่ MSCI มีการนำหุ้นจีนในดัชนี A-Share เข้ามาคำนวณใน MSCI Emerging Market Index (MSCI EM) ซึ่งหลังการนำหุ้นในดัชนี A-Share เข้ามาคำนวณใน MSCI EM คาดว่าจะใช้เวลาถึงปี 2027 และจะทำให้บริษัทหุ้นจีนมีสัดส่วนรวมในดัชนี MSCI EM คิดเป็นประมาณ 40% โดยเป็นสัดส่วนของ A-Share ประมาณ 16% ของดัชนี MSCI EM ซึ่งคาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้ายังดัชนี A-Share เพิ่มขึ้นและส่งผลบวกต่อบริษัทที่จดทะเบียนในดัชนี A-Share
