ทำไม "มีสวัสดิการ" แต่ "ประกันสุขภาพ" ยังสำคัญ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
คนมีสวัสดิการสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิประกันสังคมหรือสวัสดิการนายจ้าง ก็ควรมีประกันสุขภาพไว้บ้าง เพราะสวัสดิการที่มีอยู่นั้น อาจจะ…
วงเงินไม่เพียงพอ
สวัสดิการจากนายจ้างมักถูกกำหนดวงเงินสูงสุดต่อครั้งหรือต่อปีไว้ เช่น ไม่เกินปีละ 200,000 บาท ซึ่งแม้ครอบคลุมค่ารักษากรณีเจ็บป่วยปกติ แต่หากเจ็บป่วยหรือประสบอุบัติเหตุรุนแรง หรือต้องนอนโรงพยาบาลยาวนาน วงเงินจากสวัสดิการ คงไม่เพียงพอ
ไม่ครอบคลุมทุกค่าใช้จ่าย
สวัสดิการของนายจ้างบางแบ่งอาจจำกัดเฉพาะการรักษาตัวของโรงพยาบาลรัฐ หรือสิทธิประกันสังคมหากไม่ใช่เหตุฉุกเฉินก็ต้องไปตวรจรักษาตามโรงพยาบาลที่ระบุไว้เท่านั้น ซึ่งอาจมีข้อจำกัดในการเดินทางได้
และด้วยวิทยาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้า ไม่ว่ารูปแบบการรักษาหรือตัวยาแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูง สิทธิหรือสวัสดิการที่มีอยู่อาจไม่ครอบคลุม หรือแม้แต่ประกันสุขภาพบางแบบก็อาจไม่คุ้มครองด้วยเช่นกัน
มีเฉพาะตอนทำงาน
สวัสดิการต่างๆ โดยเฉพาะจากนายจ้างเอกชนมักจำกัดแค่ช่วงที่ยังมีสถานะเป็นลูกจ้างอยู่ เมื่อลาออกหรือเกษียณอายุแล้ว สวัสดิการนั้นมักจบไปพร้อมสถานะจ้างงานด้วย
ซึ่งการเจ็บป่วยมักเกิดขึ้นได้บ่อยและมีค่าใช้จ่ายสูง ในช่วงที่มีอายุมากขึ้น ซึ่งคงหนีไม่พ้นช่วงชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งไม่สามารถเบิกสวัสดิการจากนายจ้างได้แล้ว
เสี่ยงถูกเลิกจ้าง
อนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ยิ่งในช่วงเศรษฐกิจเปราะบางที่องค์กรเอกชนหลายแห่งประกาศลดพนักงาน ปรับลดต้นทุนต่างๆ เพื่อให้องค์กรอยู่รอดได้ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจแบบนี้
แน่นอนว่าหากถูกเลิกจ้างหรือแม้แต่ถูกลดสวัสดิการบางอย่างลง ย่อมส่งผลต่อความเสี่ยงที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองเมื่อเจ็บป่วยได้
จาก 4 เหตุผล ที่คนมีสวัสดิการควรซื้อประกันสุขภาพ เชื่อว่าหลายคนคงเห็นความสำคัญแล้ว แต่สิ่งที่สำคัญกว่าการเห็นความสำคัญ คือการตัดสินใจซื้อประกัน ก่อนสายเกินไป
เพราะเงื่อนไขหนึ่งของประกันสุขภาพ คือ ไม่คุ้มครองโรคเรื้อรังหรือสภาพที่เป็นมาก่อนการทำประกัน ดังนั้นเมื่อเห็นความสำคัญก็ต้องรีบตัดสินใจซื้อประกันทันที ตั้งแต่ก่อนเจ็บป่วยร้ายแรงหรือเป็นโรคประจำตัว อย่ามัวแต่ชะล่าใจเพราะยิ่งปล่อยให้อายุมากขึ้น ความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยก็ยิ่งสูงขึ้นตามอายุไปด้วย
สำหรับคนที่กังวลกรณีการรักษาค่าใช้จ่ายสูงหลักล้าน แต่รับได้กับค่าใช้จ่ายหลักหมื่นหรือหลักแสนตอนหลังเกษียณ ปัจจุบันประกันสุขภาพมีรูปแบบให้เลือกที่หลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกแบบที่คุ้มครองเฉพาะค่าใช้จ่ายส่วนเกินจากจำนวนที่กำหนดได้ เช่น ค่าใช้จ่ายไม่เกิน 1 แสนบาท เราต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด แต่หากมีค่าใช้จ่ายเกิน 1 แสนบาท ประกันจะคุ้มครองค่าใช้จ่ายส่วนที่เกินนั้น ซึ่งเป็นแบบที่ค่าเบี้ยถูกเมื่อเทียบกับประกันสุขภาพแบบอื่น
ประกันสุขภาพมีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจำเป็นต้องใช้แล้วไม่มี และต้องเลือกให้ดี ทั้งความคุ้มครองที่ครอบคลุม ค่าเบี้ยที่รับได้ และการต่ออายุความคุ้มครองที่ปัจจุบันมีให้เลือกนานสุดถึงอายุ 99 ปีเลย