4 สิ่งควรทำเมื่อมีหนี้
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
หนี้บางครั้งก็เลี่ยงไม่ได้ที่ต้องมี แต่เมื่อมีแล้วก็ต้องอยู่กับมันให้ดี อย่าให้พอกพูนจนเป็นปัญหาก้อนโตในอนาคต ด้วย 4 สิ่งควรทำเมื่อมีหนี้ ดังนี้
จ่ายให้ตรงเวลา
วินัยและความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญของการสร้างความไว้ใจ ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นประวัติให้ธนาคารต่างๆ ได้เห็น เมื่อมีการติดต่อธุรกรรมด้านหนี้สินกับธนาคาร เช่น กู้ใหม่ รีไฟแนนซ์ ขอลดดอกเบี้ย หรือขอผ่อนผันค่างวด เป็นต้น
ดังนั้นจึงควรรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ตรง ทั้งตามกำหนดเวลาและจำนวนเงินขั้นต่ำที่ต้องจ่าย เพื่อไม่ให้เสียโอกาสการขอสินเชื่อในอนาคต
ทำบันทึกหนี้สิน
หลายคนไม่ได้มีหนี้บัญชีเดียวหรือธนาคารเดียว แต่อาจมีหนี้อยู่มากมายหลายประเภท เช่น บัตรกดเงินสด บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถ สินเชื่อบ้าน สินเชื่อธุรกิจ ฯลฯ ซึ่งหนี้สินเหล่านี้แตกต่างกันไปทั้งอัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขการโปะหนี้
ซึ่งการบันทึกหนี้สินจะทำให้รู้ว่า แต่ละเดือนตนเองมีภาระจ่ายหนี้รวมเดือนละเท่าไร เหลือหนี้แต่ละบัญชีอยู่เท่าไร และแต่ละหนี้สินอัตราดอกเบี้ยต่างกันเท่าไร
เลือกโปะให้ถูก
แม้ในยุคเงินทองฝืดเคือง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้รับเงินโบนัสหรือหารายได้เสริม ซึ่งเมื่อมีเงินเหลือก็ต้องให้ความสำคัญกับการนำมาโปะหนี้บ้าง เพื่อให้หนี้ที่มีอยู่หมดไปโดยเร็ว
ซึ่งการเลือกโปะหนี้นั้นควรเลือกจากหนี้สินที่ (a) คิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ซึ่งเป็นลักษณะของหนี้ส่วนใหญ่ ยกเว้น สินเชื่อซื้อรถยนต์ สินเชื่อส่วนบุคคลบางแห่ง และโปรแกรมผ่อนบัตรเครดิต เป็นต้น (b) ไม่มีเงื่อนไขห้ามโปะหรือจ่ายมากกว่าขั้นต่ำ (c) อัตราดอกเบี้ยสูงที่สุด ซึ่งมักได้แก่ บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต ตามลำดับ เพื่อให้หนี้สินที่มีอยู่ลดและหมดลงเร็วที่สุด
รีไฟแนนซ์เมื่อมีโอกาส
หลายธนาคารมีบริการสินเชื่อเพื่อรวมหนี้ ซึ่งดอกเบี้ยมักต่ำกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลทั่วไป ดังนั้นหากหนี้เดิมที่มีอยู่ไม่มีเงื่อนไขหรือปัจจุบันเกินกำหนดเวลาห้ามปิดหนี้แล้ว การรีไฟแนนซ์บนยอดหนี้เท่าเดิมก็ช่วยให้ลดภาระดอกเบี้ยลงได้
สำหรับหนี้บ้านซึ่งมักมีอัตราดอกเบี้ยต่ำในช่วง 1-3 ปีแรก และมักมีเงื่อนไขคิดค่าปรับกรณีรีไฟแนนซ์เฉพาะภายใน 3-5 ปีเท่านั้น ผู้กู้ส่วนใหญ่จึงมักเลือกรีไฟแนนซ์หนี้บ้านไปธนาคารใหม่เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำต่อไป
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือ การรีไฟแนนซ์ หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรขอเพิ่มวงเงินหรือขยายระยะเวลาผ่อนออกไปอีก เพราะจะทำให้หนี้นั้นพอกพูนมากขึ้นหรือหมดช้าลงได้
หนี้นั้นมีได้แต่ต้องมีอย่างมีสติและพอดี อย่าสร้างหนี้เพียงเพราะความอยากได้ แต่ต้องสร้างหนี้เพราะความจำเป็น ที่สำคัญต้องจ่ายหนี้อย่างมีวินัยและโปะทุกครั้งที่มีโอกาส
