พอร์ตแบบไหน...โดนใจคุณ?
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
พอร์ตการลงทุนแบบเชิงรุก
พอร์ตการลงทุนเชิงรุก มักจะเน้นลงทุนหุ้นที่ความเสี่ยงสูงเพื่อสร้างผลตอบแทนสูง มีค่าเบต้าหรือว่าระดับของการเคลื่อนไหวของราคาที่ผันผวนมากกว่ากว่าตลาด เช่น ถ้าหุ้นที่ถือมีค่าเบต้าเท่ากับ 2 หากตลาดหุ้นปรับขึ้น 5% หุ้นที่ถืออยู่จะมีโอกาสปรับขึ้นไปถึง 10% และแน่นอนว่าถ้าตลาดปรับลดลง หุ้นตัวนี้จะปรับลงได้ 10% เช่นกัน
พอร์ตการลงทุนเชิงรุกจะเน้นที่การเติบโตของมูลค่าหุ้นเป็นหลัก แต่นักลงทุนต้องทำการบ้านหนักมากในการค้นหาหุ้นที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ขณะเดียวกันต้องเน้นการบริหารความเสี่ยง เพราะถ้าถือหุ้นผิดตัวจะทำให้มีโอกาสมากที่จะขาดทุน ดังนั้นกุญแจสำคัญของการลงทุนแบบนี้คือ เวลาขาดทุนต้องทำให้ขาดทุนน้อยที่สุด ขณะที่เวลากำไรก็ต้องฉวยโอกาสให้ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
พอร์ตการลงทุนแบบเชิงรับ
พอร์ตลงทุนลักษณะนี้จะไม่ถือหุ้นที่มีค่าเบต้าสูง ๆ หรือหุ้นที่ราคาเคลื่อนไหวอิงกับฤดูกาลหรือวัฏจักรเศรษฐกิจเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของราคา เช่น ช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ธุรกิจที่ขายสินค้าที่ผู้คนต้องกินต้องใช้จะขายได้ดี และสะท้อนมายังราคาหุ้นที่มีโอกาสผันผวนน้อยกว่าหุ้นของธุรกิจที่ขายสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือย ดังนั้น หุ้นที่อยู่ในพอร์ตเชิงรับมักเป็นหุ้นสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โรงพยาบาล อาหาร เป็นต้น
พอร์ตการลงทุนแบบเน้นผลตอบแทนสม่ำเสมอ
พอร์ตลงทุนประเภทนี้จะเน้นไปที่หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งจะมีการจัดพอร์ตที่คล้ายคลึงกับหุ้นในพอร์ตลงทุนเชิงรับ แต่จะเน้นหาหุ้นที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ เช่น หุ้นปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (IFF) เป็นต้น
นักลงทุนจำนวนไม่น้อยชอบพอร์ตลงทุนในรูปแบบนี้ โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการมีเงินได้ประจำจากเงินลงทุน หรือกลุ่มวัยเกษียณแต่ยังรับความเสี่ยงในระดับปานกลางได้ก็จะเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
พอร์ตลงทุนแบบเก็งกำไร
พอร์ตการลงทุนแบบนี้จะเน้นการลงทุนที่มีความสี่ยงสูงมากและเน้นลงทุนตามกระแสและลงทุนในระยะสั้น เช่น ซื้อเช้าขายบ่าย หรือซื้อขายเป็นรายชั่วโมง
พอร์ตลงทุนแบบนี้ดูเหมือนว่านักลงทุนจะนิยมกันค่อนมาก เพราะเชื่อว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนในเวลาอันรวดเร็ว
พอร์ตการลงทุนแบบผสม
เป็นการผสมการลงทุนในหลายรูปแบบเข้าไว้ด้วยกัน อาจเป็นการผสมกันระหว่างสินทรัพย์หลายประเภท เช่น หุ้น พันธบัตร ทองคำ หรือผสมกันระหว่างหุ้นในหลากหลายรูปแบบอย่างที่กล่าวไปตอนต้น จึงเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนไม่สามารถลอกเลียนแบบกันได้ ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนจะต้องพิจารณาว่าพอร์ตลงทุนแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง และเมื่อลงทุนไปแล้วสิ่งสำคัญ ก็คือ หมั่นตรวจสอบการลงทุนอยู่เสมอ และเหนือสิ่งอื่นใดอย่าโลภมากจนกลายเป็นนิสัย เพราะความโลภ คือ หายนะ