เปิดโลกการลงทุนของคุณให้กว้าง กับกองทุน BCAP-GMA และ BCAP-GMA Plus

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

ทุกวันนี้การลงทุนต่างประเทศ เป็นอีกหนึ่งช่องทางเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่น่าสนใจกว่าแค่การลงทุนในประเทศ

 

แต่จะไปลงทุนเอง ก็หาข้อมูลไม่ง่าย แต่ถ้าจะลงทุนผ่านกองทุนรวม ส่วนใหญ่ก็ลงทุนผ่านกองทุนหลัก (Feeder Fund) ที่อาจมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า

 

แต่สำหรับกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล มัลติ แอสเซท (BCAP-GMA) และกองทุนเปิดบีแคป โกลบอล มัลติ แอสเซท พลัส (BCAP-GMA Plus) ที่เป็นกองทุนประเภท Fund of funds คัดเลือกกองทุนมากกว่า 75,000 กองทุน และ ETF มากกว่า 6,900 กองทุนทั่วโลก จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่ตอบโจทย์เหล่านักลงทุนยุคใหม่ ส่วนจะน่าสนใจอย่างไร มาหาคำตอบไปพร้อมกัน…

 

เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทน ในการลงทุนต่างประเทศ

 

จากข้อมูล World Economic Outlook (WEO) ได้คาดการณ์ GDP โดยรวมของโลกปี 2564 ไว้ที่ 6.0%ต่อปี ในขณะที่คาดการณ์ GDP ของประเทศไทยไว้เพียง 2.1%ต่อปี ประกอบกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ล่าสุดเมื่อ ก.ค. 64 ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ของประเทศในปีนี้อยู่ที่ 1.3%ต่อปี จากที่ เม.ย. 64 เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.3%ต่อปี ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสการการลงทุนที่ต่างกัน ระหว่างการลงทุนในประเทศไทยและต่างประเทศ

 

กระจายการลงทุน หลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลก

 

กองทุน BCAP-GMA และ BCAP -GMA Plus  มีนโยบายลงทุนผ่านกองทุนรวมที่หลากหลายทั้งในแง่สินทรัพย์ เช่น กองทุนรวมตราสารทุน กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ (REITs) กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน กองทุนรวมอีทีเอฟ (ETF) รวมไปถึง กองทุน Active fund และหลักทรัพย์อื่นๆ ที่นักลงทุนทั่วไปยากจะเข้าถึง และหลากหลายในแง่ภูมิภาคโดยมีการเลือกลงทุนครอบคลุมกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และไม่เน้นลงทุนในประเทศไทยเลย เพื่อลด Home Bias หรือลดอคติความอยากหรือไม่อยากลงทุนประเทศใดประเทศหนึ่งเป็นพิเศษ

 

ทำให้นอกจากมีโอกาสรับผลตอบแทนจากหลากหลายสินทรัพย์และหลากหลายประเทศแล้ว ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงเพื่อลดผลกระทบต่อเงินลงทุนในแทบทุกสถานการณ์ ที่อาจเกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งด้วย

 

ดูแลเงินลงทุน ด้วยทีมงานระดับโลก

 

กองทุน BCAP-GMA และ BCAP -GMA Plus เกิดจากความร่วมมือระหว่าง BCAP และ Pictet เพื่อวางแผนด้าน Wealth Solution และออกแบบมาให้เฉพาะลูกค้าธนาคารกรุงเทพเท่านั้น โดย Pictet เป็นสถาบันการเงินระดับโลกของสวิตเซอร์แลนด์มีประสบการณ์ด้านการลงทุนมากกว่า 200 ปี และทำธุรกิจหลักด้าน Private Banking โดยเฉพาะ

 

ปัจจุบัน Pictet มีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลกว่า 685,000 ล้านฟรังก์สวิส หรือประมาณ 22 ล้านล้านบาท มีสำนักงาน 30 แห่ง ครอบคลุมเมืองสำคัญ 5 โซนทั่วโลก เจ้าหน้าที่ดูแลการลงทุนมากกว่า 1,000 คน ทำให้มีโอกาสใกล้ชิดกับลูกค้าและเข้าใจตลาดในแต่ละภูมิภาคอย่างแท้จริง และฝีมือของทีมงานก็ได้รับการยอมรับจากระดับโลกด้วยรางวัล Global Private Banking Awards ที่ Pictet ได้รับอย่างต่อเนื่อง

 

กองทุนปรับการลงทุนในกองทุนต้นทางให้เองตามความเหมาะสม

 

กองทุน BCAP-GMA และกองทุน BCAP-GMA Plus เป็นกองทุนประเภท Fund of funds ที่มีการคัดเลือกกองทุนมากกว่า 75,000 กองทุน และ ETF มากกว่า 6,900 กองทุน ในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก อาจมีการซื้อขายสับเปลี่ยนกองทุนที่ลงทุนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตาม Time Zone ในแต่ละประเทศ

 

โดย Pitctet มีทีมงานในการกำหนดทิศทางการลงทุน การจัดสัดส่วนการลงทุน การคัดเลือกกองทุนที่ลงทุน และมีการทำงานร่วมกับ BCAP ในการปรับสัดส่วนการลงทุนในกองทุนทั้ง 2 กองทุน หากมีสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ทำให้มีความคล่องตัวกว่าการลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศทั่วไป ที่มักเน้นลงทุนกองทุนหลักเพียงกองทุนเดียว

 

ไม่มีค่าธรรมเนียมขายช่วง IPO 16-22 ก.ย. 64

 

กองทุน BCAP-GMA และกองทุน BCAP-GMA Plus โดยปกติจะมีค่าธรรมเนียมขายอยู่ที่ 0.535% (สูงสุด 1.07%) และ 0.856% (สูงสุด 1.07%) ตามลำดับ แต่สำหรับนักลงทุนที่จองซื้อกับธนาคารกรุงเทพในช่วงการเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่าง 16 – 22 ก.ย. 64 จะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมขายดังกล่าว ซึ่งเป็นการลดต้นทุนการลงทุนหรือเพิ่มส่วนต่างผลตอบแทนให้สูงขึ้นกว่าการลงทุนในช่วงเวลาทั่วไป

 

 

สำหรับสัดส่วนการลงทุนในกองทุน BCAP-GMA และกองทุน BCAP-GMA Plus อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามสถานการณ์ โดยในเบื้องต้น

 

• กองทุน BCAP-GMA ซึ่งเป็นกองทุนความเสี่ยงระดับ 5 ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศ 20% และตราสารหนี้ต่างประเทศ 80%
• กองทุน BCAP-GMA Plus ซึ่งเป็นกองทุนความเสี่ยงระดับ 6 ได้กำหนดสัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนต่างประเทศ 75% และตราสารหนี้ต่างประเทศ 25%

 

โดยทั้ง 2 กองทุน เริ่มต้นลงทุนแต่ละครั้งด้วยเงินเพียง 500 บาท ไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจผู้จัดการกองทุน สามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการระหว่างเวลา 8.30-15.30 น. ที่ธนาคารกรุงเทพทุกสาขา และ 8.30-16.00 น. สำหรับการลงทุนผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ โดยจะได้รับเงินค่าขายคืนภายใน 5 วันทำการ (T+5) หลังวันทำรายการขายคืน

 

อย่าปล่อยให้โอกาสการลงทุนหลุดลอย ด้วยการลงทุนกองทุน BCAP-GMA และกองทุน BCAP-GMA Plus ที่มีโอกาสรับผลตอบจากสถานการณ์ที่หลากหลาย มีทีมงานมืออาชีพระดับโลกช่วยดูแล และยังยกเว้นค่าธรรมเนียมการขายในช่วง IPO อีกด้วย

 

สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ bit.ly/38Okbee

 

ที่มาข้อมูล

 

•    International Monetary Fund, World Economic Outlook, July 2021 Update: https://www.imf.org/en/Publications/WEO/Issues/2021/07/27/world-economic-outlook-update-july-2021
•    ข่าวกระทรวงการคลัง ฉบับที่ 160/2564: https://bit.ly/3jVIaNK

 

คำเตือน

 

• ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
• กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้

 

#ให้เงินทำงาน #WealthMeUp #BCAP #BCAPGMA #BCAPGMAPLUS #BCAPxPICTET #ลงทุนต่างประเทศ #BBLexclusive #PrivateWealth