×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

หุ้นดิ่ง 4 สัปดาห์ติด Hedge Fund ดูดเงินมากสุดรอบ 7 ปี

1,236

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

ความกังวลเรื่องนโยบายการเงินแบบเข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กดดันบรรยากาศการลงทุนต่อเนื่องล่าสุดตลาดหุ้นสหรัฐร่วงหนัก 2.5% เป็นการปรับลงต่อเนื่องสัปดาห์ที่ 4 (DJIA ปรับตัวลงวันเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่มี.ค. 2020, S&P500 ร่วงแรงสุดนับจากเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา)

 

ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้ (25 เม.ย.) ดิ่ง 2-3% ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวลงเกือบ 3% (ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาร่วงเกือบ 5%) ส่วนตลาดตราสารหนี้ ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรุ่น 5 ปีแตะ 3% ระหว่างการซื้อขายส่งผลให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรุ่น 10 ปี (2.95%)

 

Jonathan Krinsky หัวหน้านักวิเคราะห์ ของ BTIG กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่ร่วงลงหนักทำให้นักลงทุนโยกเงินไปยังกลุ่ม Defensive ที่มีความปลอดภัยมากกว่า เช่น กลุ่มธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค กลุ่มยาและเวชภัณฑ์ รวมทั้งกลุ่มหุ้นเติบโตขนาดใหญ่

 

โดยสัปดาห์นี้นักลงทุนต่างรอติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนกว่า 160 บริษัทใน S&P500 โดยเฉพาะบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ อย่าง Amazon, Apple, Alphabet, Meta และ Microsoft พร้อมจับตาการเข้าเทคโอเวอร์กิจการ Twitter ของ  Elon Musk ที่มีทรัพย์สินกว่า $46.5 พันล้านเหรียญ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

 

ขณะที่ HFR รายงานเงินไหลเข้ากองทุน Hedge Fund ใน Q1/2022 มากที่สุดในรอบ 7 ปี (ตั้งแต่ Q2/2015) โดยมีเงินไหลเข้าสุทธิเกือบ $1.3 หมื่นล้าน อย่างไรก็ตามเงินลงทุนทั้งหมดใน Hedge Fund ยังคงใกล้เคียงกับเดือนธันวาคม 2022 ที่ประมาณ $4 ล้านล้าน หลังจากผลการดำเนินงานของสินทรัพย์ที่เข้าไปลงทุนยังคงย่ำแย่ (-0.78% ใน Q1/2022) แต่ยังดีกว่าผลตอบแทนของดัชนี S&P500 (-4.6%)

 

โดย Hedge Fund ที่ทำผลตอบแทนได้ดีที่สุดในไตรมาสที่ผ่านมา ลงทุนด้วยกลยุทธ์เศรษฐกิจมหภาค ทำให้ผลตอบแทนสูงถึง 6.8% ท่ามกลางบรรยากาศการลงทุนที่ผันผวน

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats