JPMorgan กลับลำ! เพิ่มน้ำหนัก 15 หุ้นเทคจีน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
หลังจากหุ้นเทคโนโลยีจีนถูกลดระดับความน่าสนใจไปอยู่ที่ “ไม่ควรลงทุน” หรือ “Uninvestable” เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดนักวิเคราะห์ JPMorgan Chase & Co. ได้ปรับอันดับความน่าลงทุนหุ้นเทคจีนขึ้นมาอย่างน้อย 15 บริษัท
Alex Yao นักวิเคราะห์ JPMorgan Chase & Co. และทีมระบุในรายงานว่า ทั้ง Tencent Holdings, Alibaba Group Holding, Meituan, NetEase และ Pinduoduo ได้ถูกปรับอันดับขึ้นจาก “Underweight” เมื่อเดือนมี.ค. เป็น “Overweight” เนื่องจากการลดน้ำหนักลงทุนเมื่อเดือนมี.ค. ที่เคยประเมินว่าวัฎจักรขาลง 3 รอบของหุ้นจีนได้ผ่านรอบที่ 1 (ตลาดก้าวเข้าสู่ภาวะตลาดหมี) และมาถึงรอบที่ 2 (หุ้นถูกเทขาย และราคาเริ่มมีเสถียรภาพ) เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ระดับความเสี่ยงจึงลดลง
นอกจากนี้นับตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. พัฒนาการหลายด้านต่างเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น ทั้งนโยบายจากรัฐที่เริ่มผ่อนคลาย, ความเสี่ยงของการกำกับดูแลที่เริ่มลดลง, นักลงทุนเริ่มคลายความกังวลเรื่องการนำหุ้นจีนออกจากตลาดสหรัฐ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เริ่มบรรเทา อีกทั้ง Liu He รองนายกรัฐมนตรีจีน ยังได้ให้คำมั่นว่าจะกู้สถานการณ์หุ้นเทคจีนกลับมา ต่างเป็นปัจจัยสนับสนุนหุ้นเทคโนโลยีจีน และทำให้ปรับมุมมองในที่สุด
หากย้อนไปเมื่อเดือนมี.ค. หลังรายงานของทาง JPMorgan ดัชนี Nasdaq Golden Dragon China ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปี ก่อนขยับขึ้นแรงถึงกว่า 50% หลังจากนั้นจึงค่อยๆ ปรับตัวลงอีกครั้งจากความกังวลใจเรื่องความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลภายในประเทศจีน และการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ
สำหรับการปรับรายงานของ JPMorgan ในครั้งนี้บางส่วนประเมินว่าอาจมีผลประโยชน์ทางธุรกิจแอบแฝง เนื่องจากการออกรายงานเมื่อกลางเดือนมี.ค. ภาพลักษณ์ที่เสียไปจากการใช้คำว่า “ไม่ควรลงทุน” ทำให้มูลค่าหุ้นจีนทั้งในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นเอเชีย ลดลงกว่า $200,000 ล้านดอลลาร์ และบริษัทเทคโนโลยีจีนเจ้าหนึ่งได้ลดอันดับบทบาทการเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์เพื่อเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ครั้งแรก (IPO) ของ JPMorgan Chase & Co. อีกด้วย
อย่างไรก็ตามการสร้างความสมดุลระหว่างการขยายธุรกิจในตลาดจีน พร้อมกับการออกบทวิเคราะห์ที่ตรงไปตรงมาท่ามกลางตลาดที่ผันผวน อาจไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายนักสำหรับสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan