ดอกเบี้ยขาขึ้น…หุ้นแบบไหนจะได้ประโยชน์
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ท่ามกลางความร้อนแรงของเงินเฟ้อของโลก ส่งผลให้เกือบทั่วโลกต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงของเงินเฟ้อ ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียสำหรับนักลงทุนหุ้นอย่างเรา วันนี้จะพาทุกท่านมาดูกันว่าเมื่อสถานการณ์โลกอยู่ในภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นหุ้นแบบไหนจะได้ประโยชน์บ้าง
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย คืออะไร
อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือสำคัญที่ธนาคารกลางใช้ดำเนินนโยบายทางการเงิน ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการลงทุน ผ่านการปรับลดดอกเบี้ย หรือชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจ ควบคุมเงินเฟ้อ ด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งเราจะเห็นว่าขณะนี้ว่าทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติเงินเฟ้อรุนแรงในรอบหลายปี และเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น
‘ดอกเบี้ยขาขึ้น’ ส่งผลอะไรบ้าง?
สิ่งที่ตามมาหลังการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย คือ สถาบันทางการเงินจะทยอยปรับอัตราดอกเบี้ยประเภทต่าง ๆ ตามในทิศทางเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น ดอกเบี้ยเงินกู้ ดอกเบี้ยเงินฝาก รวมถึงดอกเบี้ยที่เป็นผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาล
แต่คงไม่ได้ปรับในจำนวนที่เท่ากันเป๊ะ ๆ เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ปริมาณเงินฝาก ความต้องการสินเชื่อ อัตราเงินเฟ้อ และต้นทุนการดำเนินธุรกิจของธนาคาร เป็นต้น เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้ามีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่ละครั้ง จะส่งผลกระทบต่อเนื่อง ดังนี้
- ประชาชนรัดเข็มขัด ไม่ก่อหนี้เกินตัว
เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ผู้คนจะเริ่มระมัดระวังในการจ่ายเงิน จับจ่ายใช้สอยน้อยลง เนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น เราจึงไม่ค่อยอยากสร้างหนี้เกินตัวเหมือนแต่ก่อน เพราะต้องมาจ่ายดอกเบี้ยที่แพงขึ้นนั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลงในที่สุด
- เกิดการชะลอการลงทุน
การขึ้นดอกเบี้ยทำให้ความน่าสนใจของการลงทุนลดลงไป ทั้งในฝั่งของประชาชนที่มีแนวโน้มจะฝากเงินไว้ในธนาคารเยอะขึ้น เพราะได้ผลตอบแทนจากเงินฝากสูงขึ้น จึงมีแรงจูงใจน้อยลงที่จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์อื่นที่มีความเสี่ยงมากกว่า แต่ผลตอบแทนอาจจะไม่ได้มีความแตกต่างกันเท่าไหร่นัก
ส่วนการลงทุนของภาคธุรกิจ ก็จะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น จากภาระหนี้ที่อาจเพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้หลายบริษัทอาจจะชะลอการขยายธุรกิจออกไปก่อนในช่วงนี้ หรือลงทุนอย่างระมัดระวังตัวขึ้น ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต
- ค่าเงินมีแนวโน้มแข็งค่า
อัตราดอกเบี้ยมีผลต่อความต้องการของเงินสกุลนั้น ๆ เช่น กรณีที่ดอกเบี้ยในไทยสูงกว่าต่างประเทศ ก็มีแนวโน้มที่เงินทุนจากต่างชาติจะไหลเข้ามาลงทุนหรือเก็งกำไรในเงินบาทของไทยมากขึ้น เพราะมีผลตอบแทนที่สูงกว่าสกุลเงินต่างประเทศ ทำให้ในที่สุดค่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นนั่นเอง
‘ดอกเบี้ยขาขึ้น’ ลงทุนหุ้นอะไรดี?
แม้ในช่วงที่ดอกเบี้ยเป็นขาขึ้นแบบนี้ จะกระทบต่อภาพรวมการลงทุน และทำให้ตลาดหุ้นมีเสน่ห์น้อยลงไปบ้าง แต่จริง ๆ แล้ว ก็มีหุ้นในบางอุตสาหกรรม หุ้นบางลักษณะ ที่ได้รับประโยชน์จากการปรับขึ้นดอกเบี้ย
- หุ้นธนาคารและประกันชีวิต
ธนาคารและประกันชีวิต คือ กลุ่มธุรกิจที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากการปรับขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของธุรกิจธนาคารพาณิชย์มาจากการปล่อยสินเชื่อ และทำกำไรจาก Net Interest Margin: NIM ซึ่งเป็นส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยเงินกู้กับดอกเบี้ยเงินฝาก โดยทั่วไปแล้วดอกเบี้ยเงินกู้จะขึ้นเร็วกว่าเงินฝากเสมอ จึงมีโอกาสทำกำไรที่มากขึ้นในช่วงนี้
เช่นเดียวกับธุรกิจประกันชีวิตที่มีโอกาสทำกำไรได้สูงขึ้น จากการนำเบี้ยประกันไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ดังนั้น ถ้าดอกเบี้ยนโยบายปรับขึ้น แปลว่าผลตอบแทนจากการลงทุนก็จะสูงขึ้นด้วยนั่นเอง
ถือว่าเป็น 2 กลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสได้รับผลบวกจากการขึ้นดอกเบี้ยโดยตรง แต่ไม่ได้แปลว่าหุ้นทุกตัวในกลุ่มจะได้รับประโยชน์เท่ากันหมด นักลงทุนต้องเข้าไปศึกษาพอร์ตสินเชื่อ และพอร์ตการลงทุน ในแต่ละบริษัทก่อนว่าเป็นอย่างไร
- หุ้นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิต
ประกอบด้วย อาหาร ยารักษาโรค บริการทางการแพทย์ สินค้าอุปโภคที่จำเป็นอย่าง สบู่ แชมพู และสาธารณูปโภคพื้นฐานต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้า แก๊ส น้ำมัน น้ำประปา เป็นต้น แม้จะไม่ได้รับประโยชน์จากการขึ้นดอกเบี้ยตรง ๆ แต่ถือว่าธุรกิจไม่ได้รับผลกระทบเชิงลบมากนัก จึงเหมาะกับการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงในช่วงนี้
ความน่าสนใจของหุ้นกลุ่มนี้ คือ อำนาจต่อรองในการกำหนดราคาสินค้า และสามารถผลักภาระต้นทุนบางส่วนไปยังผู้บริโภคได้ เพราะเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีพ จึงลดแรงกระแทกในยามที่ต้นทุนสูงขึ้นจากทั้งเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ย
- หุ้นหนี้สินต่ำ เงินสดในมือสูง
เมื่อดอกเบี้ยปรับตัวขึ้น ภาระหนี้ของบริษัทก็จะสูงขึ้นตาม บริษัทที่มีหนี้เยอะหรือขาดกระแสเงินสด จะเสียเปรียบอย่างมากต่อการขยายธุรกิจ ยิ่งถ้าบริษัทมีรายได้เท่าเดิม ก็จะส่งผลต่อแนวโน้มกำไรในอนาคตที่ลดลงด้วย เพราะมีรายจ่ายจากต้นทุนดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุน ควรเน้นหุ้นคุณภาพที่มีความปลอดภัยสูง สังเกตง่าย ๆ จากธุรกิจที่มีภาระหนี้สินต่ำ โดย D/E Ratio ไม่ควรเกิน 2 เท่า รวมถึงมองหาบริษัทที่มีกระแสเงินสดสุทธิเป็นบวก (Net Cash Flow) ซึ่งสะท้อนถึงการมีเงินสดจากการดำเนินงาน มีเงินสดจากการลงทุน การกู้ยืมและภาระดอกเบี้ยต่ำ ทั้งนี้ หุ้นที่มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งอยู่แล้ว จะมีความสามารถที่จะสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะถูกกดดันจากนโยบายทางการเงินก็ตาม
อ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะพอเห็นภาพแล้วว่าการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย ส่งผลต่อทิศทางการลงทุนอย่างไรบ้าง ซึ่งทั้งหมดเป็นเพียงการฉายให้เห็นปัจจัยต่าง ๆ บนทฤษฎีทางการเงินเท่านั้น เพราะที่สุดแล้วในโลกของการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอน และยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหุ้น หัวใจสำคัญคือนักลงทุนควรหมั่นติดตามข้อมูล และสถานการณ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อที่จะได้ปรับมุมมองการลงทุนได้เหมาะสมกับเป้าหมาย