3 บัญชี ช่วยมีเงินเก็บสบายกระเป๋า
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เมื่อเราได้รับเงินเดือนหรือมีรายได้เข้ามา แต่ละคนก็มีเทคนิคการเก็บออมต่างกัน เช่น บางคนหักเงิน 10% จากเงินเดือนเพื่อเก็บออม บางคนเลือกเก็บเงินจากที่เหลือใช้ในแต่ละวัน แต่สำหรับคนที่ยังไม่เริ่มเก็บออม อาจเพราะยังไม่มีแรงบันดาลใจ หรือยังหาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองไม่เจอ ลองเริ่มต้นจากการทำตามเทคนิคง่ายๆ ที่นำมาฝากกัน ด้วยการรู้จักแยกบัญชีให้ดี ก็อาจทำให้คุณค้นพบรูปแบบการออมและการลงทุนที่เหมาะกับตัวเองได้ในอนาคต
บัญชีค่าใช้จ่ายประจำวัน
แน่นอนว่าหลายคนมีบัญชีเงินเดือนไว้เพื่อรับเงินเดือนหรือรายได้ และมักจะใช้จ่ายประจำวันจากบัญชีนี้ ทำให้การแยกเงินเก็บนั้นเป็นเรื่องยาก ขอแนะนำว่าควรจัดสรรเงิน และแบ่งโอนไปยังบัญชีต่างๆ ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน โดยเริ่มจากบัญชีค่าใช้จ่ายประจำวันที่นิยมทำคู่กับบัตร ATM หรือบัตรเดบิต ซึ่งควรมีเงินให้พอใช้ได้ทั้งเดือน
โดยคำนวณจากการลงมือทำบัญชีรายรับรายจ่าย เพื่อให้รู้ว่าในชีวิตประจำวันมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง และมีเงินเหลือเก็บอยู่เท่าไหร่ ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือ ช่วยสร้างระเบียบวินัยการใช้จ่ายของเราได้อย่างชัดเจน และไม่ต้องกังวลว่าเราจะมีเงินเก็บไม่พออีกด้วย
บัญชีเงินออมระยะสั้น
เชื่อว่าหลายคนต้องมีการตั้งเป้าหมายกับตัวเอง เช่น มีการวางแผนไปเที่ยวต่างประเทศ หรือแพลนเก็บเงินไว้เพื่อลงทุนทำธุรกิจ หรือเก็บเงินเพื่อแต่งงานสร้างครอบครัว ส่วนนี้จะเป็นการใช้เงินก้อนจำนวนไม่สูงมาก และมีกำหนดระยะเวลาการออมประมาณ 1-3 ปี ซึ่งบัญชีออมเงินระยะสั้นที่มากกว่า 1 ปี สามารถเลือกออมเงินในรูปแบบการลงทุนระยะสั้นถึงกลางได้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ระยะสั้น เป็นต้น
บัญชีเงินออมระยะยาว
เป็นบัญชีที่วางแผนจะเก็บออมไว้ใช้ในอนาคต เช่น เก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ ซึ่งมีเป้าหมายระยะเวลามากกว่า 5 ปีขึ้นไป แนะนำให้เปิดบัญชีเพื่อเก็บออมในรูปแบบความเสี่ยงต่ำ และได้รับผลตอบแทนสม่ำเสมอ เช่น ประกันชีวิตแบบบำนาญ กองทุน RMF หรือพันธบัตร เป็นต้น
หากลองทำตามวิธีที่แนะนำโดยเริ่มจากการแยกบัญชีให้ดี เชื่อเลยว่านอกจากจะมีเงินใช้จ่ายคล่องตัวแล้วยังช่วยฝึกระเบียบวินัยการเงินให้กับตัวเอง แถมยังมีเงินเก็บสบายกระเป๋าเหลือๆ อีกด้วย