5 โรคร้ายทางการเงิน ต้องรีบรักษาให้หาย

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line 

 

เช็กเลย! 5 โรคร้าย ‘ทางการเงิน’ ที่ต้องรีบรักษาให้หาย…เพราะสุขภาพการเงินก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย!

 

โรคความดันอยากมีสูง

 

อาการ: จะมีพฤติกรรมใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินฐานะ เกินรายรับของตนเอง ไม่สนใจว่าสิ่งของเหล่านั้นจะถูกหรือแพง จะจำเป็นในชีวิตประจำวันหรือไม่ ขอแค่ให้ได้มีของตามกระแสไว้อวดคนอื่น ถ่ายรูปลงบนโซเชียล และหากไม่หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ อาการอาจร้ายแรงถึงขั้นลุกลามไปโรคอื่นๆ ได้

 

วิธีรักษา: เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้จ่ายเงินอย่างเร่งด่วน หันมาใส่ใจวางแผนการเงินทั้งรายรับและรายจ่าย ไม่ซื้อสินค้าตามกระแส หักห้ามใจเอาเงินเหล่านั้นมาเก็บออมแทน

 

โรคภูมิคุ้มกันการเงินต่ำ

 

อาการ: ร่างกายของเราอาจมีสิ่งแปลกปลอมเข้ามาทำให้ภูมิคุ้นกันตกยังไง เรื่องของการเงินในกระเป๋าหรือบัญชีเราก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน หากมีสิ่งที่ล่อตาล่อใจ ชวนให้ชอปกระจายจนเงินหมดกระเป๋า ผ่อนสินค้า รูดบัตรเครดิตก็เลือกจ่ายแต่ขั้นต่ำวนไป อาการเหล่านี้แหละที่กำลังบ่งบอกว่าภูมิคุ้มกันการเงินเราต่ำ และอ่อนแอ หากทิ้งไว้นานๆ ก็อาจร้ายแรงได้

 

วิธีรักษา: การสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแกร่ง ไม่โอนอ่อนต่อสิ่งเร้ารอบกาย สร้างกฎทางการเงินอย่างเคร่งครัด จัดระเบียบทางการเงินของตนเองให้เป็นระบบ พยายามออกนอกลู่นอกทางให้น้อยที่สุด

 

โรคทรัพย์จาง

 

อาการ: เผลอใช้จ่ายมากกว่ารายรับไปบ้างในบางช่วง บางเดือน มีขัดสนการเงินตั้งแต่กลางเดือนไป หรือว่าง่ายๆ ก็คือต้นเดือนกินหรู สิ้นเดือนกินมาม่า และจะกลับมาหายใจได้อีกครั้งก็หลังจากที่เงินเดือนออกไปแล้ว และก็จะวนลูปแบบนี้ซ้ำต่อไปเรื่อยๆ

 

วิธีรักษา: ต้องหักดิบกับตัวเราเอง เมื่อเงินเดือนเข้ามาปุ๊บให้รีบหักมาออม หรือหักไว้สำหรับเงินฉุกเฉินทันที แล้วค่อยมาดูต่อว่าในเดือนนี้เหลือเงินเท่าไหร่ก็ค่อยมาวางแผน บริหารรายจ่ายกันต่อไป

 

โรคออมเงินล้มเหลวเฉียบพลัน

 

อาการ: คนที่ดูว่าท่าดีแต่สุดท้ายก็ทีเหลว มีความตั้งใจที่จะออมเงิน ศึกษาเกี่ยวกับเรื่องการเงิน แต่ก็ทำไม่สำเร็จ ผัดวันประกันพรุ่ง เลื่อนออมเงินไปปีถัดไปอยู่เรื่อยๆ หาข้ออ้างสารพัดต่างๆ มาสนับสนุนเหตุผลที่จะไม่ออมเงิน

 

วิธีรักษา: โรคนี้ขึ้นอยู่กับตัวเราเองล้วนๆ โดยต้องเริ่มจากปรับทัศนคติของตนเอง ให้ความสำคัญกับการออม อย่ามองว่าต้องรอมีเงินเยอะๆ ถึงจะออม เพราะกว่าที่เราจะมีเงินเยอะๆ นั้นก็เริ่มจากการเก็บออมเงินทีละน้อยเช่นกัน

 

โรคมะเร็งหนี้ระยะสุดท้าย

 

อาการ: โรคนี้ถือเป็นโรคที่ร้ายแรงที่สุดทางการเงิน อาการคือคนที่มีหนี้สินท่วมหัว ไม่ว่าจะหนี้บัตรเครดิต หรือกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาหมุนเวียนใช้จ่ายในแต่ละเดือน จนกลายเป็นว่ามีหนี้สินเยอะเกินกว่ารายรับจนจัดการไม่ไหว และหนักถึงขั้นมีการค้างชำระหนี้ทำให้เสียเครดิตทางการเงิน หากใครมีอาการเหล่านี้ต้องรีบรักษาโดยด่วน

 

วิธีรักษา: จำกัดการใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด หากมีบัตรเครดิตที่วงเงินมากกว่าเงินเดือนของตนเองให้ใช้จ่ายไม่เกิน 20-25% ของวงเงินที่มี และเมื่อถึงเวลาครบกำหนดชำระให้จ่ายเต็มจำนวนไม่จ่ายขั้นต่ำ แบ่งเงินให้เป็นสัดส่วนเพื่อป้องกันการไปหยิบยืมคนอื่นมาหมุนใช้จ่ายด้วย

 

หากใครที่เช็กอาการเหล่านี้แล้ว พบว่าตัวเองมีโรคร้ายทางการเงินอยู่ต้องรีบรักษาให้หายโดยด่วน อย่าให้ลุกลามรุนแรงมาถึงกระเป๋าเงินและบัญชีของเราเด็ดขาด