เกิดอะไรขึ้นกับนิวซีแลนด์ คนย้ายออกนับแสนใน 1 ปี
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Youtube | Facebook | TikTok | Instagram | Line
…ทำไม? ผู้คนนับแสน ย้ายออกจาก ‘นิวซีแลนด์’
…อะไรคือ ปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนตัดสินใจเช่นนั้น?
…การย้ายประเทศครั้งใหญ่นี้ จะส่งผลต่อนิวซีแลนด์อย่างไร?
นิวซีแลนด์ เคยเป็นประเทศที่ใครๆ ก็อยากไปเยือน ภูเขา ทะเลสาบ ธารน้ำแข็ง อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม จนได้รับการจัดอันดับเป็นประเทศที่น่าอยู่มากที่สุดอันดับ 6 ของโลกในปี 2022 จากรายงานของ CS Global Partners บริษัทการตลาดและที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลก โดยระบุถึงดัชนีความเป็นพลเมืองโลก หรือ World Citizenship Index (WCI) ซึ่งประเมินจากประเทศและดินแดน 188 แห่งทั่วโลก
แต่ล่าสุด จากการสำรวจในปี 2024 นิวซีแลนด์ร่วงลงมาอยู่ในอันดับที่ 20 โดยมีคะแนนลดลงจาก 86.8 มาเหลือ 76.2
ปัจจัยหลัก 5 ด้านที่ใช้ชี้วัดผลสำรวจ ประกอบด้วย
1. ความปลอดภัย (Safety and Security)
2. โอกาสทางเศรษฐกิจ (Economic and Business Opportunity)
3. คุณภาพชีวิต (Quality of Life)
4. ความสามารถในการเดินทางทั่วโลก (Global Mobility and Travel)
5. อิสระทางการเงิน (Financial Freedom)
ชาวนิวซีแลนด์ย้ายประเทศ กว่า 1.3 แสนคน ใน 12 เดือน
นิวซีแลนด์มีประชากรที่อาศัยอยู่ในประเทศทั้งหมดประมาณ 5.2 ล้านคน แต่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ชาวนิวซีแลนด์กว่า 131,200 คน ตัดสินใจอพยพออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในจำนวนนี้ 80,200 คน เป็นชาวนิวซีแลนด์โดยกำเนิด และเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นเกือบ 70% เมื่อเทียบกับการย้ายออกในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19
มากกว่า 50% ของผู้อพยพชาวนิวซีแลนด์ มีอายุระหว่าง 20-39 ปี โดยกลุ่มที่มีอายุระหว่าง 25-29 ปี เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด หนึ่งในผู้ที่ตัดสินใจย้ายประเทศบอกว่า สาเหตุหลักที่ทำให้ตัดสินใจเช่นนี้ เพราะต้องการแสวงหางานที่มีคุณภาพสูงขึ้น
Shamubeel Eaqub นักเศรษฐศาสตร์ของ New Zealand Institute of Economic Research บอกว่า จนกว่าที่ตลาดแรงงานจะดีขึ้น เราจะยังคงเห็นชาวนิวซีแลนด์ย้ายประเทศออกไปเรื่อยๆ
‘วิกฤตค่าครองชีพ’ ทำให้ตัดสินใจย้ายประเทศ
วิกฤตค่าครองชีพเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ชาวนิวซีแลนด์ออกจากประเทศ ซึ่งเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2022 ที่เงินเฟ้อพุ่งขึ้นแตะ 7.3% สูงสุดในรอบ 3 ทศวรรษ แม้ว่าเงินเฟ้อจะลดลงมาอยู่ที่ 3.3% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา แต่ยังคงสูงกว่าเป้าหมายระยะกลางของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ที่ตั้งไว้ 1-3%
Kelvin Davidson หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านอสังหาริมทรัพย์ของ CoreLogic NZ บอกว่า โดยเฉลี่ยแล้วรายได้ของชาวนิวซีแลนด์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ต้องถูกกันไว้สำหรับการผ่อนชำระหนี้บ้านถึงประมาณ 53-57% ซึ่งถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ
ข้อมูลจาก World Vision พบว่า ราคาอาหารพื้นฐานในนิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 56% ในช่วงระหว่างปี 2565-2566 ส่วนอัตราการว่างงานพุ่งขึ้นเป็น 4.6% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจาก 3.6% ของปีก่อนหน้านั้น
ขณะที่ราคาบ้านในนิวซีแลนด์พุ่งขึ้นต่อเนื่องจนมากกว่ารายได้เฉลี่ยถึงประมาณ 7 เท่า จากข้อมูลของ Infometrics
ผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งขึ้นสูงดูเหมือนจะยังไม่จบลงโดยง่าย ราคาบ้านในนิวซีแลนด์มีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้น 6% ในปีหน้า เนื่องจากการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์เริ่มมีผลบังคับใช้
ในช่วงที่เงินเฟ้อพุ่งสูง ตามมาด้วยการขึ้นดอกเบี้ยจาก 0.25% ไป 5.50% แต่ราคาบ้านในนิวซีแลนด์ก็ลดลงเพียง 19% จากจุดสูงสุด เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของการเพิ่มขึ้นกว่า 40% ในช่วงโควิด-19
ราคาบ้านเฉลี่ยทั่วประเทศลดลงจากจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 800,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือราว 16.5 ล้านบาท ในเดือนมีนาคม มาอยู่ที่ 753,000 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ หรือราว 15.5 ล้านบาท ในเดือนกรกฎาคม ตามข้อมูลของ REINZ
ส่วนปี 2569 ก็มีการคาดการณ์ไว้ว่าราคาบ้านจะพุ่งขึ้นต่ออีก 5.0%
‘ออสเตรเลีย’ จุดหมายปลายทาง ของการย้ายประเทศ
ออสเตรเลียกลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับผู้อพยพชาวนิวซีแลนด์ เนื่องจากเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งกว่าและโอกาสในการทำงานที่หลากหลายกว่า รัฐบาลออสเตรเลียยังอำนวยความสะดวกให้ชาวนิวซีแลนด์ย้ายถิ่นฐานได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ข้อมูลจาก Hays บริษัทจัดหางาน พบว่าตำแหน่งงานในหลากหลายอุตสาหกรรมจ่ายเงินสูงกว่าในออสเตรเลียอย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างเช่น โฟร์แมนก่อสร้าง ซึ่งเป็นช่างฝีมือที่รับผิดชอบทีมงาน หากทำงานใน Sydney จะสามารถสร้างรายได้กว่าการทำงานที่ Oakland ถึงกว่า 60%
ข้อในปี 2023 ระบุว่า มีชาวนิวซีแลนด์ย้ายไปออสเตรเลียมากกว่า 27,000 คน ขณะที่อีกหลายพันคนเลือกจะย้ายไปยังสหราชอาณาจักร
‘ย้ายประเทศ’ อาจส่งผลกระทบในระยะยาว
แนวโน้มการย้ายถิ่นฐานในปัจจุบันอาจส่งผลกระทบระยะยาวต่อประชากรและศักยภาพด้านนวัตกรรมของนิวซีแลนด์ ในอดีต ชาวนิวซีแลนด์จำนวนมากที่ย้ายไปต่างประเทศมักจะกลับมาอาศัยอยู่ในประเทศเพื่ออยู่ใกล้ชิดกับครอบครัว แต่ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น และค่าครองชีพที่สูงอาจทำให้รูปแบบนี้เปลี่ยนไป
หากรัฐบาลไม่สามารถรักษาประชากรที่มีความสามารถและอายุน้อยไว้ได้ การอพยพครั้งนี้อาจกลายเป็นการสูญเสียถาวร ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของนิวซีแลนด์รวมทั้งความสามารถด้านนวัตกรรมของประเทศแย่ลง
