×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

Eastspring ชู 5 ธีมลงทุนรับมือครึ่งปีหลัง 2O25

306

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย

Youtube | Facebook | TikTokInstagramLine 

 

คุณดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยมุมมองการลงทุนครึ่งปีหลัง 2025 ว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการค้าระหว่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงหลัก แม้บางประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐอเมริกาได้ แต่ภาพรวมของอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศคู่ค้า อาจกดดันการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า แม้การเจรจาการค้าจะยังต้องใช้เวลาและมีความซับซ้อน แต่อีสท์สปริงมองว่า เอเชียและตลาดเกิดใหม่ยังคงเป็นจุดหมายสำคัญในการกระจายการลงทุน ท่ามกลางภาวะตลาดโลกที่ผันผวน

 

คาดเศรษฐกิจ ‘สหรัฐฯ’ ชะลอตัวลง

 

คุณยิ่งยง เจียรวุฑฒิ รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.อีสท์สปริงกล่าวว่าสำหรับแนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลัง บลจ.อีสท์สปริงยังคงมุมมองเชิงบวกอย่างระมัดระวัง โดยคาดว่าในส่วนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัวลง เหลือประมาณ 1.4% ในปี 2025 และ 1.6% ในปี 2026 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อน่าจะยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) คาดว่าจะเริ่มทยอยลดดอกเบี้ย เมื่อเห็นอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น

 

กำแพงภาษีสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจ ‘จีน’

 

จากการที่สหรัฐฯ มีการลดภาษีนำเข้าสินค้าจีนและมีการผ่อนผันระยะเวลาออกไป 90 วัน ทำให้อัตราภาษีเฉลี่ยลดลงเหลือราว 35% แต่ยังถือเป็นแรงกดดันต่อ GDP ประมาณ 1% ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม อีสท์สปริงยังคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตได้ราว 4.5% โดยได้รับแรงสนับสนุนจากนโยบายการคลังและมาตรการกระตุ้นเฉพาะด้าน และคาดว่าจะมีมาตรการเพิ่มเติมในช่วงต้นไตรมาส 4/2025 ขณะที่ราคาหุ้นที่ยังอยู่ในระดับน่าสนใจ ช่วยเปิดโอกาสสำหรับนักลงทุนสำหรับการเติบโตในระยะยาว

 

‘อินเดีย’ รับผลประโยชน์สูงสุดในเอเชีย

 

จากโครงสร้างการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตที่ 6.4% ในปีนี้ และ 6.6% ในปีหน้า ทั้งนี้ หากสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐฯได้เพิ่มเติม จะช่วยให้อินเดียเพิ่มเสน่ห์ในฐานะศูนย์กลางการผลิตของโลก แม้หุ้นอินเดียจะมีมูลค่าที่แพงกว่าตลาดหุ้นเอเชีย แต่ก็ยังคงมีเสถียรภาพจากนโยบายการเงินที่เอื้ออำนวยรวมถึงได้รับอานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิต (Reshoring)

 

คาดเศรษฐกิจ ‘ไทย’ โตต่ำกว่าประเทศเพื่อนบ้าน

 

โดยคาดว่า GDP จะอยู่ที่ราว 1.8% จากแรงกดดันด้านการค้าต่างประเทศที่อาจจะชะลอตัว การลงทุนภาคเอกชนที่อ่อนแอ และความไม่แน่นอนทางการเมือง แม้ภาคการท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ เปิดโอกาสให้ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจพิจารณาลดดอกเบี้ยได้อีกหนึ่งครั้ง หากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่คาด สำหรับการลงทุนในไทยแนะนำกลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นหุ้นปันผลสูง เพื่อช่วยลดความผันผวนและสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง

 

‘DRIVE’ 5 ธีมการลงทุนเด่น รับมือตลาดโลกผันผวน

 

คุณบดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บลจ.อีสท์สปริง กล่าวว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 นักลงทุนทั่วโลกยังเผชิญกับความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้า การเติบโตที่ชะลอตัวลงในเศรษฐกิจหลักและการเปลี่ยนผ่านไปสู่ทิศทางดอกเบี้ยขาลง โดย บลจ.อีสท์สปริง แนะนำกรอบการลงทุน 5 ธีมหลัก เพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อมมหภาคที่เปราะบาง ดังนี้

 

1. D = Diversify Globally : กระจายความเสี่ยงทั่วโลก

 

กองทุนแนะนำ: กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Core (ES-GCORE) กองทุนหลักเน้นการกระจายความเสี่ยงทั่วโลก โดยลงทุนในหุ้นคุณภาพสูงจากตลาดพัฒนาแล้ว ด้วยพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ผสมผสานการใช้ Big Data และโมเดลเชิงปริมาณเพื่อหาโอกาสจากการลงและเสริมความเสถียรของพอร์ต

 

2. R = Resilient US Leaders : หุ้นผู้นำตลาดสหรัฐฯ

 

กองทุนแนะนำ: กองทุนเปิดอีสท์สปริง US Blue Chip Equity (ES-USBLUECHIP) กองทุนหลักเน้นลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ ที่มีความแข็งแกร่งทางการเงิน และศักยภาพการเติบโตระยะยาว ท่ามกลางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว ซึ่งบริษัทเหล่านี้มีความมั่นคงทางการเงินมากกว่าบริษัทขนาดเล็ก และสามารถรับมือกับวัฏจักรเศรษฐกิจได้ดีกว่า

 

3. I = Income from Innovation : นวัตกรรมและเทคโนโลยี

 

กองทุนแนะนำ: กองทุนเปิดอีสท์สปริง Nasdaq Equity Premium Income (ES-NDQPIN) กองทุนหลักมีการใช้กลยุทธ์ Covered Call ซึ่งเป็นการขายออปชั่นบนหุ้น NASDAQ-100 เพื่อสร้างกระแสรายได้อย่างสม่ำเสมอพร้อมรักษาการลงทุนในกลุ่มเทคโนโลยี เหมาะสำหรับผู้ต้องการผลตอบแทนสม่ำเสมอในภาวะตลาดผันผวน

 

4. V = Value from Asia : หุ้นเอเชียพื้นฐานดี

 

กองทุนแนะนำ: กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asian Low Volatility Equity (ES-ALOVE) กองทุนหลักเอเชียยังเป็นภูมิภาคที่น่าสนใจในระยะยาว ด้วยศักยภาพด้านการผลิต โครงสร้างประชากร และนวัตกรรม กองทุนนี้คัดเลือกหุ้นพื้นฐานดีที่มีความผันผวนต่ำจากทั่วเอเชีย เพื่อสร้างผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ

 

5. E = Enhanced Bond Income : ตลาดตราสารหนี้

 

กองทุนแนะนำ: กองทุนเปิดอีสท์สปริง Global Income (ES-GINCOME) เมื่อธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงิน ตลาดตราสารหนี้กลับมาเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอีกครั้ง กองทุนหลักนี้ลงทุนเชิงรุกในพันธบัตรหลากหลายประเภททั่วโลก และหลายประเภทตราสารเพื่อเพิ่มโอกาสสร้างรายได้และกระจายความเสี่ยงในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

 

คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน 

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats