7 สิ่งต้องดู เมื่อซื้อกองทุนรวม
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เริ่มต้นศึกษาข้อมูลกองทุนรวมไม่ใช่เรื่องยาก เพราะมีอยู่ 7 สิ่งหลักๆ ที่ต้องดู ก่อนซื้อกองทุนรวม ได้แก่
ลงทุนในอะไร?
เช่น ตราสารหนี้ หุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ ทองคำ น้ำมัน หรือลงทุนหลายๆ อย่างผสมกันในสัดส่วนที่กำหนด เพราะเงินทุกบาทหามาด้วยความยากลำบาก จึงต้องรู้ว่ากองทุนนำเงินของเราไปลงทุนอะไร ใช่สิ่งที่ต้องการหรือไม่
ความเสี่ยงมีแค่ไหน?
กองทุนมีความเสี่ยงอยู่ 8 ระดับ โดยระดับ 1-4 จะที่เน้นลงทุนเฉพาะตราสารหนี้ ไม่มีการลงทุนในหุ้น ที่แม้ระยะสั้นอาจมีผลขาดทุนบ้าง แต่หากถือตามระยะเวลาที่ บลจ. แนะนำได้ โอกาสขาดทุนจะค่อนข้างต่ำ เนื่องจากตราสารหนี้ที่ลงทุนจะทยอยคืนเงินต้นและดอกเบี้ย
ส่วนระดับที่ 5-8 เป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้น ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ โดยลงทุนในอะไรสัดส่วนแค่ไหน ก็เป็นไปตามระดับความเสี่ยงแต่ละกองทุน ถือเป็นกองทุนที่มีโอกาสขาดทุนสูง
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญมีอะไรบ้าง?
เช่น เป็นกองทุนที่เน้นลงทุนหุ้นกลุ่มไหน เน้นลงทุนตราสารหนี้ Credit Rating ระดับใด ตราสารหนี้ที่ลงทุนมีอายุเฉลี่ยเท่าไร ผลตอบแทนมีความผันผวนแค่ไหน กรณีที่ลงทุนต่างประเทศ มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพียงใด
ผลการดำเนินงานเป็นยังไง?
ที่ผ่านมากำไรหรือขาดทุนเพียงใด เมื่อเทียบกับตัวชี้วัดกองทุนแล้วดีกว่าหรือไม่ แม้ว่าบางช่วงกองทุนอาจขาดทุนแต่หากขาดทุนต่ำกว่าตัวชี้วัด ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ยอมรับได้
กองทุนนี้เก่งกว่ากองทุนอื่นไหม?
โดยดูจากลำดับเปอร์เซ็นต์ไทล์ ที่เสมือนจัดลำดับผลสอบนักเรียน 100 คน ที่ลงทุนคล้ายๆ กัน โดยนักเรียนที่สอบได้ลำดับต้นๆ เช่น ลำดับที่ 1 ถือว่าทำได้ดีกว่าลำดับอื่นๆ หรือหลายคนอาจพิจารณาข้อมูลจากบริษัทจัดอันดับกองทุนรวมที่ได้รับใบอนุญาตจาก กลต. เช่น morningstarthailand ฯลฯ ประกอบด้วยก็ได้
เมื่อขายคืน นานไหม? กว่าจะได้เงิน
กองทุนไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันทีเหมือนเงินฝาก เพราะต้องทำรายการขายคืนภายในเวลาที่กำหนดและรอเงินเข้าออมทรัพย์ตามจำนวนวันที่กำหนด
ตัวอย่างเช่น “T+1” หมายถึงได้รับเงินภายใน 1 วันทำการ ถัดจากวันที่ขายคืน เช่น ขายคืนวันศุกร์ก่อน 15.30 จะได้รับเงินวันจันทร์ ส่วน “T+5” หากขายคืนวันศุกร์จะได้รับเงินวันศุกร์ของสัปดาห์ถัดไป เป็นต้น
ค่าธรรมเนียมแพงรึเปล่า?
กองทุนที่ค่าธรรมเนียมสูงส่งผลให้ผลตอบแทนที่ได้รับลดลงไปด้วย โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการซื้อขาย ที่เกิดขึ้นทันทีที่ทำรายการ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องพิจารณาพร้อมกับค่าธรรมเนียมคือ ลำดับกองทุนและช่องทางการซื้อขาย แม้ว่ามีค่าธรรมเนียมต่ำ แต่หากลำดับเปอร์เซ็นต์ไทล์อยู่ลำดับท้ายๆ หรือช่องทางซื้อขายไม่สะดวกเมื่อเทียบกับกองทุนของ บลจ. อื่น ก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุดเสมอไป
ก่อนซื้อกองทุนรวมควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อน ซึ่งสิ่งต่างๆ ที่เล่ามานี้ สามารถดูได้จากเอกสาร Fund Fact Sheet และข้อมูลสรุปบนเว็บไซต์ของแต่ละ บลจ. ได้ด้วยตนเอง