กองทุน Class E เรื่องน่ารู้ก่อนลงทุน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ถ้าเอ่ยถึงชนิดหน่วยลงทุน นักลงทุนจะคุ้นเคยกับกองทุนที่ลงท้ายด้วย A, D, I หรือ R เช่น กองทุน XYZ-A, กองทุน XYZ-D, กองทุน XYZ-I หรือ XYZ-R
- กองทุนที่ลงทุนด้วย A เป็นกองที่ไม่จ่ายเงินปันผล
- กองทุนที่ลงทุนด้วย D เป็นกองที่มีการจ่ายปันผล แต่จะหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% จากเงินปันผล
- กองทุนที่ลงทุนด้วย I เป็นกองทุนที่ขายเฉพาะนักลงทุนสถาบัน
- กองทุนที่ลงทุนด้วย R มีลักษณะคล้ายกับกองที่จ่ายปันผล ต่างกันที่เงินที่ได้เป็นเงินจากการขายคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติและเงินจากการขายคืนนี้จะไม่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายเหมือนกับแบบจ่ายปันผล
แต่มีชนิดหน่วยลงทุนอีกประเภทที่กำลังได้รับนิยม และบลจ.เริ่มนำเสนอนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง คือ กองทุนที่ลงท้ายด้วย E หรือคุ้นเคยว่ากองทุน Class E
ตัวอักษร E คือ Electronics (อิเล็กทรอนิกส์) แปลว่า หากกองทุนไหนที่ลงท้ายด้วย E นักลงทุนสามารถซื้อขายผ่านช่องทางการลงทุนอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น (ส่วนใหญ่ผ่านแอพพลิเคชั่นของ บลจ.นั้น) และคุณสมบัติที่สำคัญ คือ ไม่คิดค่าธรรมเนียมการจัดการ (Management Fee) และค่าธรรมเนียมขาย (Front-End Fee) พูดง่าย ๆ ค่าธรรมเนียมสองอย่างนี้ 0 บาท (ศูนย์บาท) นอกจากนี้ค่าธรรมเนียมในการรับซื้อคืน (Back-End Fee) ค่าธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนเข้าและออก บางกองก็ฟรี เรียกได้ว่าประหยัดต้นทุนได้สุด ๆ
เหตุผลสำคัญประการหนึ่งที่ บลจ. ออกกองทุน Class E ก็เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับนักลงทุน เพราะซื้อขายผ่านแอพพลิเคชันมีความง่าย สะดวก สามารถเลือกลงทุนในกองทุนภายใต้การบริหารของบลจ.นั้น ได้ทุกที่ทุกเวลา เลือกตัดบัญชีเพื่อซื้อกองทุนได้หลากหลายธนาคาร รวมถึงสามารถลงทุนแบบถัวเฉลี่ย (DCA) และที่สำคัญมีเงินน้อยก็ลงทุนได้ เพราะเริ่มต้นซื้อได้ตั้งแต่ 1 บาทขึ้นไป อย่างไรก็ตาม ก็จะมีการกำหนดวงเงินซื้อขั้นสูงสุดเอาไว้ เช่น แต่ละคนซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือ 2 ล้านบาท เป็นต้น (ตรวจสอบข้อมูลจาก บลจ.)
อาจสงสัยว่าค่าธรรมเนียมในการซื้อขายกองทุน มีผลต่อผลตอบแทนมากน้อยแค่ไหน คำตอบคือ ผลตอบแทนรวมที่เห็นประกาศถือว่าเป็นผลตอบแทนขั้นต้น เพราะผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจริง ๆ ต้องหักค่าใช้จ่ายของกองทุนรวมออกไป เหลือเท่าไหร่ก็จะเป็นผลตอบแทนสุทธิ (Net Return)
มาถึงตรงนี้ หลายคนเริ่มสนใจกองทุน Class E แต่ก่อนอื่นก็ต้องเข้าไปศึกษาข้อมูลขั้นตอนการลงทุนจาก บลจ.ก่อน เช่น ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น วิธีการสมัคร ข้อมูลด้านการโอนเงิน ข้อกำหนด รวมถึงศึกษากองทุนแต่ละกองว่ามีความสอดคล้องกับสไตล์การลงทุนของตัวเองหรือไม่
