เปิดสเปคกองทุนใหม่ ที่จะมาแทน LTF
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ในรายการ LIVE with Guru เจาะลึกกับผู้รู้เรื่องการลงทุน ของบริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ ได้มีการพูดคุยถึงประเด็น “อนาคต LTF” โดยคุณไพบูลย์ นลินทรางกูร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล. ทิสโก้ และประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย มีหลายประเด็นที่น่าสนใจโดยเฉพาะกองทุนรูปแบบใหม่ที่เตรียมเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพื่อที่จะเข้ามาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF ที่จะหมดอายุลดหย่อนภาษีในสิ้นปี 2562
LTF จบปลายปี 2562 แน่นอน
ถามว่าทำไมจบ … คุณไพบูลย์ บอกว่า ในปี 2559 กระทรวงการคลังได้ต่ออายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กองทุน LTF ไปอีกรอบแล้ว ซึ่งจะสิ้นสุดในปลายปี 2562 นี้ แต่ได้ยืดอายุกองทุนไปเป็น 7 ปีปฏิทิน ขณะที่ทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยก็จะไม่ขอขยายอายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อและได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการออกกองทุนประเภทใหม่ เพื่อทดแทน LTF ซึ่งเชื่อว่าจะตอบโจทย์การลงทุนและประเทศได้มากกว่า
มุมมองต่อกองทุนใหม่ที่จะมาแทน LTF ?
สภาธุรกิจตลาดทุนไทย มองว่าควรเปลี่ยนรูปแบบการลงทุนใหม่ เน้นดึงผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้น้อยเข้าสู่ตลาดทุน และจะเป็นการผลักดันให้ประชาชนทุกระดับใส่ใจการลงทุนระยะยาว เพราะเดิมที LTF ถูกมองว่าเอื้อผลประโยชน์แก่ผู้มีรายได้ปานกลางและรายได้สูงมากกว่า
แม้ 10 กว่าปี ที่มีการจัดตั้งกองทุน LTF ขึ้นมา จะประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง คือช่วยพัฒนาตลาดทุน หนุนให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักขึ้น และทำให้คนไทยสนใจการลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น หากดูจากเม็ดเงิน LTF ในตลาดหุ้นตอนนี้ถือว่ามีสัดส่วนที่มากพอสมควร 3 แสนกว่าล้านบาท และน่าจะมีคนไทยที่ลงทุน LTF ราว 2-3 ล้านคน แต่ถ้าเทียบกับประชากร 70 ล้านคน ถือว่าคนไทยเข้าถึงการออมเงินในตลาดหุ้นน้อยมาก
ดังนั้นทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทย จึงอยากผลักดันให้ประชาชนเข้าถึงการออมเงินในตลาดหุ้นมากขึ้น เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เพียงพอต่อการดำรงชีพ เพราะการลงทุนในตลาดหุ้นไม่ว่าที่ไหนในโลก นับเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด แต่ต้องเป็นการลงทุนระยะยาว
“อย่างการลงทุนใน LTF ถ้าใครลงทุนระยะแรกไม่เคยขาย ก็น่าจะได้กำไรสัก 3 เท่า สมมติลงทุน 1 แสนบาท ตอนนี้น่าจะกลายเป็น 3 แสน ลงทุนไว้ 3 แสนก็กลายเป็น 1 ล้านไปแล้ว”
กองทุนรูปแบบใหม่ที่จะเสนอ ก.คลัง เป็นอย่างไร ?
1.ประโยชน์ทางภาษียังคงให้ต่อไป อย่างที่บอกกองทุน LTF ถูกมองว่าให้สิทธิประโยชน์กับคนที่มีรายได้ปานกลางถึงคนที่มีรายได้สูง เพราะให้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 15% ของเงินได้ แต่ไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี ดังนั้นกองทุนใหม่ที่ออกมาจะเสนอให้ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 30 % ของเงินได้ แต่ต้องไม่เกิน 250,000 บาทต่อปี เพราะฉะนั้นจะทำให้ผู้มีรายได้ไม่สูงสามารถเข้ามาลงทุนใน LTF และหักลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นนั่นเอง ต่อไปไม่ว่าจะรายได้เยอะหรือน้อยก็ต้องถูกแคปเพดานการลดหย่อนไม่เกิน 250,000 บาทเท่ากัน
2.นโยบายการลงทุน เดิมที LTF สามารถเอาไปลงทุนในหุ้นอะไรก็ได้ 65 % ในตลาดหลักทรัพย์ขึ้นอยู่กับผู้จัดการกองทุน แต่กองทุนใหม่จะมีการกำหนดประเภทหุ้นที่จะลงทุนมากขึ้น โดยในสัดส่วน 65 % จะเน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนีความยั่งยืนของตลาดหลักทรัพย์ หรือ หุ้น S-curve หรือ หุ้นเอสเอ็มอี หรือ กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติมากขึ้น
3.ขณะที่ระยะเวลาการลงทุน ยังคงเป็น 7 ปีปฎิทินเหมือนเดิม
แต่ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนใหม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งทางสภาธุรกิจตลาดทุนไทยจะนำเสนอรายละเอียดกองทุนรูปแบบใหม่ให้ท่านพิจารณาในสัปดาห์หน้า เพื่อให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ ก่อนที่จะบังคับใช้ในปี 2563