นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าปี 2567 ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง นับจากต้นปี ราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ในปีนี้ราคาทองคำจึงปรับตัวมาแล้วกว่า 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำพุ่งขึ้นแรงอย่างต่อเนื่อง ทำระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลครั้งใหม่ 2,714 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ณ วันที่ 18 ต.ค. 2567 เวลา 12.45น. แม้ว่าวานนี้จะมีแรงกดดันจากการแข็งค่าของดัชนีดอลลาร์ ขานรับยอดค้าปลีกสหรัฐฯ ออกมาบวก 0.4% สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 0.3% แต่ทองคำก็ยกตัวสูงกว่าจุดต่ำสุดของการแกว่งตัวในช่วงที่ผ่านมา จึงเป็นการรักษาทิศทางเชิงบวกได้อย่างแข็งแกร่ง
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า บริการออมทองได้รับความสนใจอย่างมากในปีนี้ซึ่งเป็นไปตามภาวะตลาดทองคำที่คึกคักราคาทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องตลาดทั้งปี
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับขึ้นไปทำระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ปรับตัวขึ้นทำ All Time High อีกครั้ง ที่ระดับ 2,640 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ (ณ วันที่ 24 ก.ย. 2567 เวลา 12.15 น.) ขณะที่ ราคาทองคำแท่ง 96.5% อยู่ที่ระดับ 41,000 บาทต่อบาททองคำ
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่า หลังจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ล่าสุด ได้ปรับลดดอกเบี้ยลงถึง 0.50% และส่งสัญญาณผ่าน Dot Plot เปิดช่องทางการปรับลดดอกเบี้ยได้อีก 0.50% รวมทั้งสิ้นปีนี้ที่ 1.00% จึงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า จากสถิติแล้วภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในเดือนกันยายน ไม่ค่อยสดใสมากนัก โดยหากย้อนดูเดือนกันยายน ตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา จะเกิดการปรับฐานโดยเฉลี่ยราว 2-3% แต่อย่างไรก็ตาม