นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำล่าสุดยังคงทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง โดยมองว่าทิศทางในภาพใหญ่และเร็วๆ นี้ยังเป็นขาขึ้น แม้ล่าสุดได้ทำจุดสูงสุดใหม่ 2,790 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์แล้ว มองว่าหากสามารถทะลุเป้าหมายในปี 2567 นี้ได้ที่ 2,800 – 2,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ จะมีโอกาสขึ้นทดสอบเป้าหมายต่อไปที่ 3,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ในปี 2568
นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) กล่าวว่าปี 2567 ราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง นับจากต้นปี ราคาทองคำอยู่ที่บริเวณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ในปีนี้ราคาทองคำจึงปรับตัวมาแล้วกว่า 750 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ ซึ่งถือว่าปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับลดลงมา จนล่าสุดแกว่งตัวอยู่ที่โซน 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์นั้น เป็นไปตามภาพรวมทั่วโลกที่นักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐฯ ที่อาจเกิดขึ้น จากความกังวลต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แม้ว่าส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อาจจะลดดอกเบี้ยช้าเกินไปจนกระทบเศรษฐกิจ
สภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมเหมืองทองคำทั่วโลกกำลังเผชิญกับความยากลำบากในการรักษาอัตราการขยายตัวด้านการผลิตทองคำ ในขณะที่แหล่งแร่ทองคำกลายเป็นสิ่งที่หายากมากขึ้น
วายแอลจี เผยทองคำพักฐานระยะสั้นหลังพุ่งร้อนแรงต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นมาแล้วเกือบ 14% ระยะยาวยังเป็นขาขึ้นชัดเจน พบปัจจัยหนุนแข็งแกร่ง ทั้งภาวะเศรษฐกิจที่ยังน่ากังวล ปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ การเข้าซื้อของธนาคารกลางทั่วโลก รวมถึงปริมาณทองคำที่เริ่มเหลือน้อย คาดทั่วโลกมีให้ขุดเพิ่มอีกเพียง 19 ปี เทียบจากปริมาณการขุดแต่ละปีที่ 3,000 ตัน
วายแอลจีเผยหลังทองคำร้อนแรงทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งที่ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ หลังนักลงทุนกังวลภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งกองทุนขนาดใหญ่เข้าซื้อทองคำปริมาณมาก ส่งผลนักลงทุนเริ่มจับตาตลาดทองคำอีกครั้ง เหตุช่วยลดความผันผวนของพอร์ต