1 : 1 เปิดมุมคิด"แท็กซี่สาวจุฬาฯ"
กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
หลังจากโลดแล่นเป็นคนเบื้องหลังวงการละครมาเกือบ 20 ปี “วรรณกวี อยู่วัฒนา” หรือ “แก้ว” สาวอักษรศาสตร์ จากรั้วจามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ มาขับแท็กซี่ เพื่อหาเลี้ยงชีพ แต่ยังรับงานฟรีแลนซ์ในวงการมายาเป็นระยะๆ
จุดเปลี่ยนจาก “คนเบื้องหลัง….สู่เส้นทางแท็กซี่”
แท็กซี่สาวเล่าว่า จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจมาจับพวงมาลัย คือ เธอมีปัญหาสุขภาพ ทำงานประจำได้ไม่เต็มที่ จึงมองหาลู่ทางงานใหม่ๆ ซึ่งเธอเห็นคุณแม่ขับแท็กซี่มา 10 ปี รายได้ดีกว่างานประจำที่เธอทำเสียอีก จึงเบนเข็มมาทำงานนี้
มุมมองต่อ “จบจุฬาฯ แต่ขับแท็กซี่”
เธอบอกว่า คนอื่นอาจเสียดายความรู้ความสามารถที่เรียนมา แต่ส่วนตัวไม่เคยคิดว่าจะมีข้อจำกัดว่า เรียนจบอะไรจำเป็นต้องทำงานด้านไหน และเธอคิดว่าขับแท็กซี่เป็นงานสุจริต และต้องใช้ความสามารถเช่นกัน เพราะจะต้องจดจำเส้นทางให้ได้ รู้ว่าควรจะขับรถไปบริเวณไหนจึงจะมีลูกค้า
คุณสมบัติของคนขับแท็กซี่ที่ดี
ต้องรู้จักเส้นทาง มีความซื่อสัตย์ และตรงต่อเวลา ที่สำคัญต้องมีใจบริการ หรือ service mind
ชั่วโมงทำงานและรายได้
ปัจจุบัน วรรณกวีขับรถช่วงกลางวัน ส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ 05.00 – 16.00 น. มีรายได้วันละประมาณ 700-1,000 บาท และหากรับงานเหมาไปต่างจังหวัดก็จะมีรายได้มากกว่านั้น เธอเชื่อมั่นว่าหากขับรถเต็มวัน เริ่มเชี่ยวชาญเส้นทางมากขึ้น มีลูกค้าโบกมากขึ้น หรือมีลูกค้าขาประจำ ก็จะมีรายได้มากกว่านี้แน่นอน
มุมมองต่อคำว่า “งาน”
ช่วงที่ทำงานใหม่ๆ วรรณกวีเชื่อว่า ค่าของคนอยู่ที่ผลของงาน จึงทุ่มเทอย่างเต็มที่ จนรู้สึกว่างานทำร้ายตัวเธอเอง เพราะมีความเครียดและพยายามกดดันตัวเองตลอด ทำงานหามรุ่งหามค่ำ เพราะอยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด งานไม่เสร็จก็จะไม่นอน ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 ปี ก็เรียกได้ว่า ร่างกายพัง
เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงคิดว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่อย่างเดิมไม่ได้อีกต่อไป เธอจึงหันมาคิดถึงสุขภาพของตัวเองเป็นอันดับแรก ตอนนี้มุมมองต่อการใช้ชีวิตก็เปลี่ยนไป เพราะเธอคิดว่า ชีวิตไม่ได้มีแค่งานอย่างเดียว ร่างกายเป็นต้นทุน หากร่างกายแข็งแรง จะไปทำงานที่มีเงินเดือนสูงเมื่อไหร่ก็ได้ และยังสามารถดูแลคนที่รักได้อีกด้วย
สิ่งที่อยากบอก “คนหางาน”
วรรณกวีฝากถึงทั้งคนที่เพิ่งจบใหม่ และคนที่ทำงานมานานและกำลังคิดจะเปลี่ยนงานว่า หากยังไม่กล้า ยังไม่ได้ตัดสินใจ ก็อยากให้มองที่ศักยภาพของตัวเอง คนเราสามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ให้เลือกทำอะไรก็ได้ ที่เลี้ยงตัวเองได้ สุจริต ไม่เบียดเบียนใคร ไม่เบียดเบียนตัวเอง และมีความสุข เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่ “งาน” อย่างเดียว
#WealthMeUp #1on1