ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ O4 ม.ค. 2561

ตลาดหุ้นทำสถิติสูงสุดรอบ 43 ปี

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดการซื้อขายวันแรกของปีอย่างคึกคัก ทำสถิติใหม่ปิดตลาดวันที่ 3 ม.ค. 2561ที่ 1,778.53 จุด เพิ่มขึ้น 24.82 จุด หรือ 1.42% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 85,850.49 ล้านบาท สร้างสถิติดัชนีปิดตลาดสูงที่สุดในรอบ 43 ปี หรือนับตั้งแต่ก่อตั้ง ตลท. เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2518

ค่าเงินเอเชียแข็ง หลังดอลลาร์อ่อน

ค่าเงินทั่วภูมิภาคเอเชียปรับตัวแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งอ่อนค่าลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง เทียบกับตะกร้าเงินเมื่อวันที่ 2 ม.ค. 2561 ที่ ผ่านมา โดยเงินเอเชียที่แข็งค่ามากที่สุดคือ เงินวอนเกาหลีใต้ที่ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ก่อนอ่อนตัว 0.6% หลังเกาหลีใต้ส่งสัญญาณเข้าแทรกแซงค่าเงิน

ด้านธนาคารกลางจีน (พีบีโอซี) ปรับค่ากลางเงินหยวนขึ้นในระดับที่แข็งค่าที่สุดในรอบ 1 ปีครึ่ง อยู่ที่ 6.492 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินเยนแข็งค่าขึ้นมาเพียงเล็กน้อย 0.01% อยู่ที่ 112.27 เยน/ดอลลาร์สหรัฐ
ส่วนเงินบาท เปิดตลาดที่ 32.43 บาท/ดอลลาร์ คาดทิศทางในสัปดาห์แรกของปี 2561อยู่ในกรอบ 32.35-32.60/ดอลลาร์สหรัฐ โดยเงินบาทแข็งค่าเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย

หนี้สาธารณะพุ่ง1.8หมื่นล้านบาท

สำนักบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 พ.ย. 2560 อยู่ที่ 6.32 ล้านล้านบาท คิดเป็น 41.67% ของจีดีพี เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 18,644.26 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหนี้รัฐบาล 4.95 ล้านล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจ 956,649 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 397,798 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 11,695 ล้านบาท

ทั้งนี้ หนี้รัฐบาลเพิ่มขึ้น 27,033 ล้านบาท เกิดจากการกู้เงินตามแผนที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 และพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม รวมถึงเพื่อบริหารหนี้สาธารณะ และการกู้เงินเพื่อลงทุนจากแหล่งเงินกู้ในประเทศเพื่อทำโครงการรถไฟฟ้า ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว 551.12 ล้านบาท สายสีม่วง 392 ล้านบาท และสายสีน้ำเงิน 374 ล้านบาท

รวมถึงโครงการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อเชื่อมต่อการเดินทางบริเวณสถานีสะพานพระนั่งเกล้า และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง 6.8 แสนบาท

คาดตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยปี 61 โตต่อเนื่อง

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดดอทคอม เผยว่า ตลาดอี-คอมเมิร์ซไทยปี 2561 จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากการแข่งขันของผู้ให้บริการอี-มาร์เก็ตเพลสรายใหญ่ของจีน 2 ราย คือ อาลี บาบาผ่านทางลาซาด้า และเจดี ดอตคอม ที่เข้ามาจับมือกับกลุ่มเซ็นทรัล
อีกทั้งการขายสินค้าผ่านเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม เป็นตัวผลักดันอี-คอมเมิร์ซให้เติบโตขึ้น จากจำนวนผู้ใช้โซเชียลจำนวนมาก พร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านการขนส่ง และบริการการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งพร้อมเพย์ และคิวอาร์โค้ด ที่จะเป็นตัวผลักดันอี-คอมเมิร์ซของไทย

ล้มดีล “อาลีบาบา “ซื้อกิจการ “มันนี่แกรม”

มันนี่แกรม อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ บริษัทผู้ให้บริการด้านการโอนเงินของสหรัฐ และผู้ให้บริการด้านการโอนเงินรายใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า คณะกรรมาธิการตรวจสอบการลงทุนจากต่างประเทศของสหรัฐ (CFIUS) มีมติคัดค้านข้อเสนอของบริษัทแอนท์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิสเซส กรุ๊ป ในเครืออาลีบาบา กรุ๊ปที่จะซื้อกิจการมันนี่แกรมในวงเงิน 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากวิตกว่าจะทำให้บริษัทอาลีบาบา ของจีน สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคในสหรัฐ

#WealthMeUp
ที่มา: โพสท์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ, ฐานเศรษฐกิจ, เดลินิวส์
ภาพ: thaipost