อยากเพิ่ม “เวลา” ต้องทำ 5 สิ่ง
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
คนเราทุกคนมีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่เคยรู้สึกบ้างไหมว่า เรามีเวลาไม่พอ หรือแอบสงสัยไหมว่า ทำไมคนโน้นคนนี้ถึงทำกิจกรรมมากมายได้ทั้งๆ ที่มีเวลาเท่ากับเรา
ถ้าอยากรู้สึกว่ามี “เวลา” มากขึ้น ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเองดู เริ่มจาก 5 สิ่งง่ายๆ แบบนี้ก่อน
หยุด “บ่น” เริ่ม “ทำ
เลิกเสียเวลากับการบ่นไม่พอใจสิ่งรอบตัว เพราะไม่ได้ทำให้อะไรๆ ในชีวิตดีขึ้น แต่ควรเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง เพื่อช่วยกำจัดสิ่งไม่พึงปรารถนาออกจากชีวิตดีกว่า เช่น ถ้าเบื่อการจราจรที่ติดขัด ก็อาจต้องเปลี่ยนเวลาไปทำงานให้เร็วขึ้น หรือถ้าไม่อยากขับรถระหว่างรถติด ก็เปลี่ยนไปใช้ขนส่งมวลชน ซึ่งทำให้ใช้เวลาระหว่างเดินทางทำอย่างอื่นได้ด้วย เช่น อ่านหนังสือ หรือเตรียมข้อมูลสำหรับประชุม
คุมเวลาออนไลน์
จากสถิติของ We Are Social พบว่า คนไทยใช้อินเทอร์เน็ตเฉลี่ยวันละ 9 ชั่วโมง 38 นาที และใช้เวลากับโซเชียลมีเดียประมาณ 3 ชั่วโมง 10 นาที ลองคำนวณดูว่าคุณเป็นอีกคนหรือเปล่าที่ใช้เวลากับโลกออนไลน์มากเกินไป เผลอเป็นไม่ได้ต้องเช็กโซเชียลมีเดีย หรือเล่นเกมบนสมาร์ทโฟน ถ้าอยากลดเวลาส่วนนี้ แต่คิดว่าคุมตัวเองไม่ได้ ก็ลองดาวน์โหลดแอปอย่าง Guided Access หรือ AppDetox ใส่สมาร์ทโฟน เพื่อคุมเวลาการใช้งานแอปบนมือถือได้ ซึ่งจะช่วยให้มีเวลาไปทำงานหรือกิจกรรมอื่นมากขึ้น
เพิ่มพักเบรก
หลายคนคิดว่า แทนที่จะพักควรเอาเวลาไปทำงานดีกว่า เพราะจะได้งานมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว การทำงานติดต่อกันหลายชั่วโมงโดยไม่พักเลย จะทำให้มีสมาธิจดจ่อกับเนื้องานน้อยลง และอาจต้องใช้เวลาทำงานให้เสร็จนานกว่าเดิม
ผลการวิจัยบอกว่า ถ้าให้ดีควรทำงาน 52 นาที และพักเบรก 17 นาที แต่ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ทำและความชอบของแต่ละคนด้วย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ควรจะหาเวลาพักระหว่างวัน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่เสียเวลาและพลังงานไปเปล่าๆ
ลดการประชุม
การประชุมเป็นอีกกิจกรรมที่อาจกินเวลาการทำงานของหลายคนไปหลายชั่วโมง โดยเฉพาะถ้าบริหารจัดการไม่ดีเท่ากับเสียเวลาเปล่าๆ ผลสำรวจในสหรัฐอเมริกาพบว่า พนักงานทั่วไปใช้เวลากับการประชุมคิดเป็น
1 ใน 3 ของชั่วโมงทำงานทั้งหมด หรือราวๆ 15 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หากลดเวลาประชุมลงได้ครึ่งหนึ่ง ก็จะมีเวลาเหลือทำงานอื่นได้ถึง 7.5 ชั่วโมง ดังนั้นหากเป็นแค่การประชุมอัพเดตข้อมูล ก็ควรเปลี่ยนไปใช้ช่องทางสื่อสารอื่น เช่น ส่งอีเมลแจ้งคนที่เกี่ยวข้องก็ได้
รู้จักกระจายงาน
หัวหน้าหรือพนักงานอาวุโสหลายคนไม่อยากจะสอนงานคนรุ่นใหม่ เพราะคิดว่าเสียเวลา หรือบ้างก็คิดว่าทำเองจะเสร็จเร็วกว่าและดีกว่า การคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่จะส่งผลดีในระยะสั้นเท่านั้น เพราะหากคิดกันยาวๆ การสอนงานชนิดที่ต้องทำเป็นกิจวัตรให้พนักงานน้องใหม่ทำแทน ก็จะเหลือเวลาไปทำงานอย่างอื่นที่สำคัญกว่าได้มากขึ้น
