×

Wealth Me Up ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ

ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 29 พ.ย. 256O

2,140

 

6 ธ.ค. เปิดตัว ”มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ ทางมิชลินไกด์จะเปิดตัว “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ พร้อมแนะนำเชฟจากร้านอาหารที่จะได้รับ “มิชลิน สตาร์” ที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

ททท.คาดหวังว่าเมื่อมีมิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ จะผลักดันค่าใช้จ่ายอาหารให้เพิ่มเป็น 25% ของรายได้การท่องเที่ยวรวมในปี 2561 หรือ 750,000 ล้านบาท โดยคาดว่าอาหารข้างทางแถวเยาวราชหรือร้านข้าวมันไก่ ประตูน้ำจะรวมอยู่ในมิชลิน ไกด์ ด้วย

ทั้งนี้ “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ ของไทย ถือเป็นประเทศที่ 29 ของโลก และที่ 6 ของเอเชีย และเป็นที่ 2 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์
 

อสังหา’61 แข่งดุ สต๊อกเก่า-บ้านใหม่เพียบ

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานสถานการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 โดยระบุว่า แม้เศรษฐกิจไทยในปี 2561 น่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังเผชิญความท้าทาย ทั้งการแข่งขันในตลาดที่ยังคงเป็นไปอย่างรุนแรง และความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยยังมีจำกัด

โดยคาดว่าจำนวนที่อยู่อาศัยเปิดขายใหม่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลปี 2561 จะมีจำนวน 1-1.08 แสนหน่วย ขยายตัว 0-2% จากปี 2560 ขณะที่จำนวนที่อยู่อาศัยคงค้างจนถึงสิ้นปี 2560 น่าจะอยู่ที่ 1.7-1.77 แสนหน่วย ขยายตัว 4-8% จากสิ้นปี 2559
 

หวั่นผลกระทบ “ภาษีกองทุนตราสารหนี้”

สถาบันการเงินหวั่นหากรัฐเดินหน้าแผนเก็บภาษีกองทุนตราสารหนี้ อาจกระตุ้นให้นักลงทุนหันมาฝากเงินเพิ่มขึ้นทำให้ธนาคารต้องมีการปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากลงเพื่อลดภาระเป็นการดึงเม็ดเงินลงทุนออกจากตลาดตราสารหนี้ราว 15%

ส่วนผลกระทบทางอ้อม จะเป็นการลดแหล่งเงินลงทุนให้กับธุรกิจไทย การเก็บภาษีดังกล่าวทำให้นักลงทุนสถาบันไม่อยากเข้าไปลงทุนเพราะได้ผลตอบแทนน้อยไม่คุ้ม

ด้านสมาคมตราสารหนี้ ชี้ต่างชาติขนเงินลงทุนตราสารหนี้ไทย 9 เดือนแรก โต 2.14 แสนล้านบาท ยอดลงทุนสะสมสุทธิ 8.14 แสนล้านบาท
 

จับตา “เฟด” อาจขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า

นายเจอโรม พาวเวลล์ ว่าที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผย เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคมนี้ โดยมีหลายปัจจัยที่สนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และสภาพการณ์ต่างๆได้เกื้อหนุนให้เฟดดำเนินการดังกล่าว

นอกจากนี้ นายพาวเวลยังระบุว่า เขาคิดว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่เฟดจะปรับลดงบดุลลงจากระดับ 4.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สู่ระดับ 2.5-3.0 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงเวลา 3-4 ปี
 

คาด “โอเปก” ลดการผลิตถึงปลายปี 61 

ตลาดคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปก หรือประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกจะขยายเวลากรอบเวลาข้อตกลง เพื่อควบคุมกำลังการผลิต เมื่อมีการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มโอเปกที่กรุงเวียนนาในวันพฤหัสบดีที่ 30 พ.ย.นี้ อย่างไรก็ดี ตลาดอาจจะผิดหวังได้ เนื่องจากมีรายงานว่ารัสเซียยังไม่ได้ตกลงอย่างเต็มที่ที่จะลงนามยืดข้อตกลง ซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 31 มีนาคม 2561 ไปจนถึงปลายปี

ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ระบุว่า ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่านไม่น่ากังวล เนื่องจากช่วงสงครามอิหร่าน-อิรัก ในอดีต ซาอุฯและอิหร่านก็สามารถทำงานร่วมกันในโอเปกได้ ดังนั้นตลาดน้ำมันจึงไม่ควรจะวิตกมากเกินไป

 

#WealthMeUp

ที่มา: โพสท์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐฯ, ข่าวหุ้น
ภาพ: thailandee.com

Related Stories

amazon anti fatigue mats