หุ้นเติบโต vs หุ้นดี
ท่ามกลางยรรยากาศตลาดหุ้นไทยคึกคัก นักลงทุนมักเก็บหุ้นบริษัทที่เติบโต (Growth Company) เข้าพอร์ตลงทุน แล้วมองข้ามหุ้นหรือบริษัทที่ดี (Great Company) ทั้งๆ ที่เป็นหุ้นที่ลงทุนแล้วมีความสบายใจ
จะว่าไปแล้วบริษัทที่เติบโต กับที่ดีมีความแตกต่างกันพอสมควร บริษัทที่เติบโตอาจจะเติบโตช่วงใดช่วงหนึ่ง และการเติบโตมาจากศักยภาพของตัวเอง (Organic Growth) หรืออาจจะเติบโตขึ้นมาจากการเข้าไปซื้อกิจการ (M&A) อื่นๆ เข้ามาเป็นของตัวเอง
ส่วนบริษัทที่ดี เป็นบริษัทที่ผ่านร้อนผ่านหนาวและอยู่รอด สามารถต้านทางแรงเสียดทานต่อเศรษฐกิจถดถอยได้ ที่สำคัญใช้วิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างน่าประทับใจ สะท้อนให้เห็นว่าทีมผู้บริหารมีศักยภาพที่ดี
ดังนั้น บริษัทที่ดีเหมาะกับการลงทุนระยะยาว ขณะที่บริษัทที่เติบโตเหมาะสำหรับการลงทุนช่วงที่บริษัทนั้นๆ กำลังเติบโต
นอกจากนี้ ระหว่างบริษัทที่ดีกับหุ้นที่ดีนั้น บริษัทที่ดีคือ บริษัทที่มีผู้บริหารดี มีวิสัยทัศน์ อยู่ในอุตสาหกรรมที่ดี ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตดี ที่สำคัญจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ขณะที่หุ้นที่ดีคือ หุ้นที่ซื้อแล้วราคาปรับขึ้นไปเลย เช่นหุ้นเก็งกำไรที่ราคาอาจปรับขึ้นโดยไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ
โดยบริษัทที่ดีอาจเป็นหุ้นที่ดีหรืออาจไม่ใช่หุ้นที่ดีก็ได้ ดังนั้น นักลงทุนควรเลือกลงทุนบริษัทที่ดีก่อน ด้วยการเข้าไปดูข้อมูลของบริษัท เช่น ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ โปร่งใสหรือไม่ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ตัวเลขงบการเงิน และเมื่อดูประเมินแล้วและมองว่าน่าจะเป็นบริษัทที่ดี จากนั้นก็ดูราคาหุ้นว่าเหมาะสมต่อการเข้าไปลงทุนหรือไม่
ตรงกันข้าม ถ้าดูหุ้นที่ดีก่อนอาจเจอกับหุ้นที่ซื้อขายชั่วครั้งชั่วคราว ราคาหุ้นหวือหวา ถ้าเข้าผิดจังหวะจะขาดทุน แต่หากเริ่มจากบริษัทที่ดี ถ้าลงทุนไปแล้วเกิดความผิดพลาด เช่น ราคาหุ้นปรับลดลงก็ยังได้รับเงินปันผลเข้ามาทดแทน
และนี่คือความแตกต่างระหว่างหุ้นเติบโตกับหุ้นดี
สำหรับจังหวะการลงทุน นักลงทุนสไตล์หุ้นคุณค่าจะลงทุนหุ้นที่ดีหรือหุ้นคุณค่าก่อน เพราะถือว่าเป็นหุ้นที่อยู่นอกสายตาของนักลงทุนที่เน้นหุ้นเติบโต โดยผลตอบแทนที่จะได้รับอยู่ในรูปของอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล
และเมื่อบริษัทนั้นๆ เริ่มมีผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเริ่มมีความน่าสนใจในสายตาของนักลงทุนสไตล์หุ้นเติบโต ซึ่งมักเป็นจุดที่นักลงทุนหุ้นคุณค่ามองว่าราคาหุ้นเริ่มแพงก็จะเริ่มขายหุ้น เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา
โดยนักลงทุนที่ชื่นชอบหุ้นเติบโตจะเข้ามาเป็นผู้ซื้อต่อจากนักลงทุนหุ้นคุณค่า และเมื่อใดที่ความน่าสนใจของหุ้นในแง่ของผลการดำเนินงานลดลง นักลงทุนหุ้นเติบโตจะเริ่มขายหุ้นเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคา โดยนักลงทุนหุ้นคุณค่าจะกลายมาเป็นผู้ซื้อหุ้นต่อจากนักลงทุนเติบโต
กด Subscribe รอเลย…