ไม่อยาก “จน” ต้องทำแบบนี้
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เคยสงสัยกันไหมว่า ต้องจนแค่ไหน…ถึงเรียกว่าจน?
ถ้าพูดกันตามทฤษฎี สำนักงานสถิติแห่งชาติได้จัดทำ “เส้นแบ่งความยากจน” ของประเทศไทยประจำปีล่าสุดเมื่อปี 2559 อยู่ที่ระดับ 2,667 บาท หมายความว่า คนไทยที่มีรายได้ต่ำกว่า 2,667 บาทต่อเดือน จะถูกเรียกว่า “คนจนอย่างเป็นทางการ”
จากการสำรวจมีคนไทยเข้าข่าย “คนจนอย่างเป็นทางการ” ประมาณ 5.8 ล้านคน เมื่อสำนักงานสถิติแห่งชาติเจาะลึกลงไปก็พบว่า คนไทยคนหนึ่งมีรายจ่ายเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 6,534 บาท จ่ายน้อยสุด 2,362 บาทต่อเดือน จ่ายเยอะสุด 14,476 บาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม มีคำถามตามมาว่า มีคนไทยกลุ่มหนึ่งที่มีรายได้อยู่เหนือเส้นแบ่งความยากจน แต่กลับทำตัวเองให้กลายเป็นคนจนได้อย่างเหลือเชื่อ ด้วยปัจจัยเดียวนั่นคือ “หนี้”
ตัวอย่างเช่น มีเงินเดือน 40,000 บาท แต่ต้องจ่ายหนี้ในแต่ละเดือน 38,000 บาท เหลือเงินติดกระเป๋า 2,000 บาท หรือบางคนมีความสามารถก่อหนี้มากกว่ารายได้ที่หาได้ในแต่ละเดือน
ไม่ต้องไปโทษใคร นอกจากตัวเอง ถ้าอยากขยับให้ตัวเองอยู่เหนือเส้นแบ่งความยากจน ไม่ต้องไปพึ่งหมอดู แต่ต้องพึ่งตัวเองด้วยการเพิ่มวินัยด้านการใช้จ่าย เริ่มจากลด ละ แล้วเลิก และนี่คือเทคนิคการกำจัดหนี้ให้หมดไปจากชีวิต
ตรวจสอบหนี้สินทั้งหมดว่ามีหนี้อะไรบ้าง
แล้วดูรายละเอียดหนี้แต่ละประเภทว่าเป็นอย่างไร จ่ายตอนไหน อัตราดอกเบี้ยเป็นอย่างไร แล้วก็เตรียมตัวหาทางแก้ไขจัดการ
ต้องกำจัดหนี้สินที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงๆ เป็นลำดับแรก
เช่น หนี้บัตรเครดิต หนี้นอกระบบ หนี้บัตรกดเงินสด เพราะถ้าเคลียร์ได้เร็วจะลดภาระดอกเบี้ยลงได้เยอะ
ขอขยายเวลาผ่อน
ส่วนใหญ่แล้วหนี้ประเภทนี้มักเป็นหนี้ระยะยาว เช่น กู้ซื้อบ้าน หากดูแล้วเริ่มไม่ไหวต้องเดินไปหาเจ้าหนี้เพื่อขอคำปรึกษาหาทางออก เช่น ขยายเวลาชำระหนี้ ขอลดเงินผ่อนในแต่ละงวด
อย่าก่อหนี้ใหม่
ตราบใดที่กำลังเคลียร์หนี้เก่าอยู่ หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรไปกู้ยืมเงินก้อนใหม่มา
ลดรายจ่าย
ถือเป็นวิธีที่ดีและทำให้เกิดวินัยทางการเงินในระยะยาว นั่นคือหยุดซื้อของที่ไม่จำเป็น เช่น ซื้อของฟุ่มเฟือย ทานข้าวนอกบ้านให้น้อยลง หยุดซื้อตั๋วหนัง เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหนี้สินส่วนใหญ่ล้วนมาจากการการใช้เงินแบบมือเติบ ดังนั้นถ้าลดหนี้ส่วนนี้ได้จะลดภาระหนี้ลงได้เยอะเช่นกัน
จดบัญชีรายรับ-รายจ่าย
เป็นเทคนิคง่ายมากที่จะทำให้รู้เส้นทางการเงินของตัวเองว่าในแต่ละวันหรือแต่ละเดือนนั้น เงินเข้ากี่บาท และเงินถูกใช้ไปกับอะไรบ้าง เมื่อรู้อย่างนี้แล้วจะสามารถอุดรอยรั่วการใช้จ่ายเงินได้อย่างดี เพราะจะรู้ว่าเงินหมดไปกับสิ่งไม่จำเป็นกับชีวิตมากน้อยแค่ไหน
หางานทำเสริมรายได้
เช่น หากทำขนมอร่อยก็ลองหาช่องทางทำขนมขาย เก่งภาษาอังกฤษก็รับสอนพิเศษ และเงินที่ได้ก็นำไปจ่ายหนี้
รู้จักออมเงิน
แน่นอนว่าหากปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายจะทำให้ในแต่ละเดือนมีเงินเหลือ ก็ต้องเริ่มแบ่งเงินบางก้อนไปเก็บออม หรือลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทน เช่น กองทุนรวม หุ้น
