ข่าวสั้น ทันเศรษฐกิจ 26 ธ.ค. 256O
ไล่เก็บภาษี “เจ๊ไฝ” 1 ดาวมิชลิน
อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรณีมีเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรไปขอตรวจสอบรายได้ของนางสุภิญญา จันสุตะ หรือ เจ๊ไฝ เจ้าของร้านอาหารดังย่านประตูผี เขตพระนคร ร้านอาหารสตรีทฟู้ดของไทยที่ได้รับมิชลินสตาร์ 1 ดาว จากมิชลิน ไกด์ กรุงเทพฯ ประจำปี 2561 จากเมนูไข่เจียวปูที่มีราคาจานละ 800-1,000 บาทนั้น
กรมสรรพากรขอยืนยันว่า ตอนนี้เจ๊ไฝสบายได้ใจ หากที่ผ่านมา ร้านมีรายได้เข้ามา และเสียภาษีอย่างทุกต้อง ทุกอย่างก็จบ
ชงครม.ลดหย่อนภาษีเที่ยวเมืองรอง 15,000บาท
กรมสรรพากรเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง โดยกำหนดให้ผู้ใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว เช่น ค่าที่พัก ค่าซื้อสินค้าโอทอป ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ถึง 31 ธ.ค. 2561 สามารถนำรายจ่ายดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีเงินได้ในวงเงิน 15,000 บาท/ราย
ทั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้ใบกำกับภาษี เนื่องจากผู้ให้บริการบางแห่งมีรายได้ไม่ถึง 1.8 ล้านบาท/ปี ซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้นจึงให้ออกใบเสร็จรับเงินแทน และจะมีการพิสูจน์ว่า ผู้จ่ายเงินเป็นใคร
จ่ายภาษีผ่านพร้อมเพย์ รับเงินคืนภายใน 1 วัน
อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะดำเนินการคืนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2560 ที่ยื่นขอคืนในปี 2561 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-31 มี.ค. 2561 เข้าบัญชีพร้อมเพย์เป็นลำดับแรก ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนได้รับคืนเงินภาษีรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อยื่นขอคืนภาษี ระบบจะวิเคราะห์แบบแสดงรายการภาษี หากไม่ติดเกณฑ์ผิดปกติก็จะได้รับเงินภาษีคืนเข้าบัญชีพร้อมเพย์ภายในไม่กี่นาที หรือไม่เกิน 1 วัน ในขณะที่การคืนภาษีด้วยเช็คทางไปรษณีย์จะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 วัน
“แบงก์ชาติ” ส่งสัญญาณ คงดอกเบี้ยต่ำ
ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีหน้ายังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ 3.9% จากภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการเติบโต ขณะที่การกระจายตัวของเศรษฐกิจเริ่มมีมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายในปี 2561 ของไทยยังจำเป็นต้องอยู่ในระดับต่ำและอยู่ในภาวะผ่อนปรนต่อไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่มีทิศทางดีขึ้น แม้ว่าแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐและประเทศกลุ่มอุตสาหกรรมหลักจะปรับขึันก็ตาม
ล็อกซเล่ย์ชนะประมูลขนกระเป๋าสุวรรณภูมิ
นิติบุคคลร่วมทำงาน ล็อกซเล่ย์-แอลพีเอส ประกอบด้วย บริษัท ล็อกซเล่ย์ เพาเวอร์ ซิสเต็มส์ ชนะประมูลโครงการจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบสายพานลำเลียงกระเป๋าและระบบตรวจจับวัตถุระเบิด (BHS&EDS) วงเงิน 3,790 ล้านบาท โดยเป็นผู้เสนอราคาต่ำที่สุด 3,618 ล้านบาท คาดว่าจะลงนามในปลายเดือนม.ค. 2561
ขณะที่โครงการจัดซื้อและติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (Automated People Mover : APM) วงเงิน 2,890 ล้านบาท ซึ่งผู้ชนะโครงการ ได้แก่ กิจการร่วมค้า IRTI ประกอบด้วย บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น (ILINK) บริษัท เรืองณรงค์ บริษัท ที.อี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล และท่าอากาศยานอินชอนนั้น ได้ลงนามสัญญาโครงการไปแล้วเมื่อปลายเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หลังจากลงนามสัญญาจะมีระยะเวลาดำเนินงาน 870 วัน แล้วเสร็จในเดือน มี.ค. 2563
ที่มา: โพสท์ทูเดย์, กรุงเทพธุรกิจ, ไทยรัฐฯ
ภาพ: forbesthailand