ย้อนรอย “พลาด” คนแถวหน้า
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
คนเรามักมองเห็นแต่ “ความสำเร็จ” ของเหล่าคนดัง คนรวย และ Idol ของตัวเอง แต่หลายครั้งลืมมองหรือไม่รู้ว่า กว่าจะก้าวสู่ความสำเร็จเหล่านี้ได้ คนแถวหน้าเหล่านี้ก็เคย ล้มเหลว…ผิดพลาด…ผิดหวัง มาแล้วทั้งนั้น
เริ่มกันที่โลกการเงิน “Warren Buffett” นักลงทุนระดับตำนานผู้เป็น Idol ของเหล่าคนอยากรวยก็เคยตัดสินใจลงทุนพลาดมาแล้วหลายครั้ง โดยครั้งหนึ่งก็คือการตัดสินใจซื้อหุ้นของ Berkshire Hathaway ธุรกิจสิ่งทอใน New England เมื่อปี 1962 ยุคที่ธุรกิจเริ่มตกต่ำ
ช่วงนั้นเขาเคยเสนอขายหุ้นที่ถืออยู่ให้กับซีอีโอของบริษัทดังกล่าว แต่ต่อมากลับเปลี่ยนใจเพราะราคาต่ำกว่าที่เคยตกลงกันไว้ ซึ่งทำให้เขาโกรธมาก แทนที่จะขายหุ้นคืน เขากลับทยอยซื้อหุ้นเพิ่มเพื่อกุมอำนาจบริหารอยู่ในมือและไล่ผู้บริหารเก่าออก เท่านั้นยังไม่พอ เขายังพลาดหนักขึ้นไปอีกเพราะยังเก็บธุรกิจสิ่งทอไว้นานถึง 20 ปี ก่อนจะเลิกกิจการไป
Buffett ประเมินว่าการตัดสินใจผิดพลาดครั้งนั้นสร้างความเสียหายมากถึง 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
การตัดสินใจผิดหรือประเมินพลาดทำนองนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับ “George Soros” พ่อมดการเงินผู้เคยโจมตีค่าเงินบาทในช่วงวิกฤตการเงินเอเชียปี 1997 และได้ชื่อว่าเป็นนักเก็งกำไรระยะสั้นผู้เก่งกาจคนหนึ่งของโลก
เมื่อปี 1992 นักเก็งกำไรคนนี้เคยทำเงินเข้ากระเป๋าได้มากถึง 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในวันเดียวเมื่อเขาโจมตีค่าเงินปอนด์ของอังกฤษสำเร็จ
แต่เขาก็เคยพลาดหรือสูญเสียเงินมากถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อปี 1994 เพราะประเมินค่าเงินเยนเทียบกับดอลลาร์ผิดพลาด
ถึงจะพลาดบ้าง Soros ก็บอกว่า เขารวยได้เพราะรู้ตัวเมื่อกำลังทำอะไรผิดเสมอ
ส่วนในวงการเทคโนโลยี ก่อนปลุกปั้น Microsoft จนสำเร็จ “Bill Gates” เคยล้มเหลวในการทำธุรกิจครั้งแรกมาแล้ว ครั้งนั้นเขาและหุ้นส่วนได้ร่วมกันปลุกปั้น Traf-O-Data ที่ทำธุรกิจรวบรวมประมวลผลข้อมูลจราจรเพื่อทำเป็นรายงานให้วิศวกรด้านการจราจร
แม้จะมีรายได้จากการวิเคราะห์ข้อมูลบ้าง แต่แผนขายอุปกรณ์ประมวลผลต้องล่มไม่เป็นท่า เพราะอุปกรณ์ไม่ทำงานตอนที่นำไปเสนอลูกค้า ซึ่งถือเป็นความพังครั้งแรก และธุรกิจกลับดิ่งหนักกว่าเดิมเมื่อรัฐ Washington ตัดสินใจให้บริการประมวลผลข้อมูลจราจรฟรีแก่ทุกเมืองทั่วรัฐ ทำให้เมืองต่างๆไม่จำเป็นต้องใช้บริการของ Traf-O-Data สุดท้ายธุรกิจก็หมดทางทำมาหากินไปโดยปริยาย
ถึงธุรกิจแรกจะไม่รุ่ง แต่ก็ไม่ได้ทำให้ Gates ท้อถอยหรือเลิกพยายาม และจากจุดนั้น เขาและคู่หูคือ Paul Allen ก็มาร่วมกันสร้างอาณาจักร Microsoft จนประสบความสำเร็จ
ฝั่งของคนแถวหน้าโลกบันเทิง “Steven Spielberg” พ่อมดแห่งวงการ Hollywood ที่รวยทั้งเงินรวยทั้งกล่อง เพราะหนังของเขาหลายเรื่องถูกใจคอหนังกวาดรายได้มหาศาล เช่น Jurassic Park, E.T The Extra Terrestrial, Jaws และยังเคยคว้ารางวัลออสการ์มาครองถึง 3 ครั้งในฐานะผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากผลงานเรื่อง Schindler’s List ในปี 1993 และ Saving Private Ryan ในปี 1998 ซึ่งเรื่องแรกคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมด้วย
แต่รู้ไหมว่า ผู้กำกับภาพยนตร์คนนี้ไม่เคยเรียนวิชาภาพยนตร์จากที่ไหนเลย และเคยถูกปฏิเสธไม่รับเข้าเรียนจาก School of Cinematic Arts แห่ง University of Southern California ถึง 2 ครั้งอีกต่างหาก
ทว่าเพราะฝีมืออันเป็นที่ประจักษ์ของเขาทำให้สถาบันแห่งนี้สร้างอาคารเพื่อเป็นเกียรติแก่เขาในภายหลัง
ส่วน J.K. Rowling นักเขียนระดับมหาเศรษฐีแห่งเกาะอังกฤษก็เคยผ่านช่วงเวลายากลำบากไม่ใช่น้อย ก่อนสำนักพิมพ์จะตีพิมพ์หนังสือพ่อมดน้อย Harry Potter ของเธอจนได้รับความนิยมไปทั่วทุกมุมโลก มียอดขายซีรีย์ 7 เล่มรวมกันกว่า 500 ล้านเล่ม และมีการนำไปสร้างภาพยนตร์ชุดที่สร้างรายได้อีกมหาศาล
เธอคนนี้เคยเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ยากจน ตกงาน ต้องพึ่งพาเงินสวัสดิการจากรัฐบาลเพื่อความอยู่รอด เคยเป็นโรคซึมเศร้าและเคยคิดจะฆ่าตัวตายมาแล้ว
กว่า Harry Potter จะกลายเป็นหนังสือดัง เธอเคยส่งต้นฉบับเรื่องนี้ไปให้สำนักพิมพ์ 12 แห่งพิจารณา แต่ก็ถูกปฏิเสธทั้งหมด สุดท้ายสำนักพิมพ์ Bloomsbury ก็ได้ตัดสินใจพิมพ์นวนิยายแฟนตาซีของเธอ ซึ่งถูกอกถูกใจคนหลากหลายวันทั่วโลก ทำให้ผู้หญิงที่ต้องพึ่งพาเงินสวัสดิการจากรัฐกลายเป็นมหาเศรษฐีแถวหน้าในปัจจุบัน
คงเห็นกันแล้วว่า “คนแถวหน้า” ต่างก็เคยล้ม เคยพลาดกันมาทั้งนั้น คนธรรมดาอย่างเราๆ ก็อย่ากลัวที่จะล้มเหลวหรือผิดพลาด สิ่งสำคัญคือต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและลุกขึ้น “สู้” อีกครั้ง
ใครจะรู้… คนแถวหน้าคนต่อไป…อาจเป็นคุณก็ได้