สิทธิ “เจ้าหนี้” ผู้เอาประกันชีวิต
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
มรดกเป็นเรื่องซับซ้อน และมีปัญหามากทางการเงิน เพราะเป็นปัญหาที่เจ้าของเงิน (เจ้ามรดก) ไม่สามารถมาแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะทำพินัยกรรมหรือไม่ก็ตาม
หลายกรณี บางคนจึงวางแผนมรดกโดยการซื้อกรมธรรม์ประกันชีวิตระบุชื่อทายาทที่ต้องการให้รับมรดกเป็นผู้รับประโยชน์เลย ข้อดีคือ อยากให้ใคร คนนั้นได้ ไม่ต้องยุ่งเรื่องพินัยกรรม แถมข้อดียิ่งกว่า คือ ไม่ต้องเสียภาษีมรดก เพราะผลประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิตไม่ถือเป็นมรดก ต่างจากมรดกธรรมดาๆ ที่เมื่อเจ้ามรดกเป็นหนี้ เจ้าหนี้ก็มีสิทธิเหนือกองมรดกด้วย
แล้วถ้าซื้อประกันชีวิต เมื่อผู้เอาประกันเสียชีวิต เจ้าหนี้มีสิทธิเหนือประกันชีวิตมั้ย?
สำหรับเรื่องนี้ แยกพิจารณาเป็น 3 กรณี ดังนี้
กรณีที่ 1
ผู้เอาประกันไม่ได้ระบุชื่อผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้รับประโยชน์ หรือระบุแค่ว่าให้ผลประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นของทายาท หรือกรณีระบุชื่อผู้รับประโยชน์ แต่ผู้รับประโยชน์เสียชีวิตก่อนผู้เอาประกัน และผู้เอาประกันไม่ได้แก้ไขเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ หรือกรณีผู้รับประโยชน์เสียชีวิตพร้อมกับผู้เอาประกัน
ทุกกรณีที่กล่าวมาจะถือว่าผลประโยชน์ของกรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นส่วนหนึ่งของกองมรดกของผู้เอาประกัน ดังนั้นเจ้าหนี้มีสิทธิเอาเงินจำนวนนี้ชำระหนี้ของตนได้
กรณีที่ 2
ผู้เอาประกันระบุชื่อผู้หนึ่งผู้ใดเป็นผู้รับประโยชน์ และผู้รับประโยชน์เสียชีวิตหลังผู้เอาประกัน
ในกรณีนี้ เจ้าหนี้ของผู้เอาประกันชีวิตมีสิทธิเฉพาะเงินที่ผู้เอาประกันชีวิตได้ส่งเป็นเบี้ยประกันไปแล้วเท่านั้น
ตัวอย่างเช่น นายสมทำสัญญาประกันชีวิตตนเองไว้ ระบุนางสายเป็นผู้รับประโยชน์วงเงิน 200,000 บาท โดยนายสม ผู้เอาประกันชีวิตส่งเบี้ยประกันปีละ 10,000 บาท ส่งไปได้ 5 ปี เป็นเงิน 50,000 บาท นายสมเสียชีวิต บริษัทประกันชีวิตจ่ายผลประโยชน์ 200,000 บาทตามสัญญาแก่นางสาย แต่นางสายต้องส่งเงิน 50,000 บาท ซึ่งเป็นเบี้ยประกันที่นายสมได้ส่งไว้ให้แก่กองมรดกของนายสม ซึ่งเจ้าหนี้ของนายสมจะสามารถเอาเงินก้อนชำระหนี้ได้
กรณีที่ 3
ผู้รับประโยชน์จากกรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นเจ้าหนี้ผู้เอาประกันชีวิตด้วย เมื่อผู้รับประโยชน์กับเจ้าหนี้เป็นบุคคลเดียวกัน เจ้าหนี้ผู้นั้นก็สามารถเอาเบี้ยที่ผู้เอาประกันชีวิตจ่ายไปแล้วชำระหนี้ของตนได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องส่งคืนเข้ากองมรดกได้ แต่เจ้าหนี้คนอื่นก็อาจให้เจ้าหนี้ผู้รับประโยชน์นั้นส่งเบี้ยประกันชีวิตคืนเข้ากองมรดกเหมือนกรณีผู้รับประโยชน์ที่มิได้เป็นเจ้าหนี้ได้ โดยมีหน้าที่พิสูจน์ให้ได้ 2 ประการ คือ
- พิสูจน์ว่าการที่ผู้เอาประกันชีวิตได้เอาประกันชีวิตโดยมีเจตนาที่จะให้เจ้าหนี้คนนั้นได้รับประโยชน์แต่คนเดียว อันเป็นการทำให้เจ้าหนี้คนอื่นเสียเปรียบ
- พิสูจน์ว่าเงินเบี้ยประกันภัยที่ส่งไปนั้นสูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ของผู้ตาย
เมื่อเจ้าหนี้คนอื่นพิสูจน์ได้ครบสองประการนี้แล้ว เจ้าหนี้ที่เป็นผู้รับประโยชน์ก็ต้องส่งเบี้ยประกันชีวิตตามจำนวนทึ่ผู้เอาประกันชีวิตส่งไว้คืนเข้ากองมรดกเพื่อเจ้าหนี้คนอื่นเอาชำระหนี้ได้
