เงินบาทแข็งหนุนรายได้แบงก์-ท่องเที่ยว
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
เงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องหนุนรายได้กลุ่มธนาคารพาณิชย์และภาคการท่องเที่ยวพุ่ง ขณะที่ตลาดหุ้นไทยได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เงินบาทของไทยติดอันดับสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในโลกในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา โดยพุ่งขึ้นกว่า 5% และมีแนวโน้มแข็งค่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เห็นได้ชัดเจนในช่วงต้นสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม ที่เงินบาทเปิดการซื้อขายด้วยการแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือน ท่ามกลางแรงขายดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่
เงินบาทที่แข็งค่าและผันผวนส่งผลต่อกำไรจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศ ซึ่งจากรายงานผลประกอบการธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 11 แห่ง พบว่า มีกำไรสุทธิรวม 120,593 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,348 ล้านบาทจากปีก่อนที่ 113,245 ล้านบาท
นอกจากรายได้ดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียมและบริการแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นกำไรจากการค้าเงินตราต่างประเทศ โดย 10 ธนาคารมีกำไรจากการค้าเงินเพิ่มขึ้น 9.86% เป็นมูลค่า 37,383 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 33,424 ล้านบาท ส่วนใหญ่สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น มีเพียง 3 แห่งเท่านั้น ที่ขาดทุนจากการค้าเงิน ได้แก่ ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย ขาดทุน 50.90% ธนาคารธนชาติขาดทุน 34.85% และธนาคารไทยพาณิชย์ ขาดทุน 17.6%
ในรอบปี 2561 ที่ผ่านมา เงินบาทปิดตลาดสิ้นปีที่ 32.55 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าขึ้น 0.1% จากปิดตลาดสิ้นปี 2560 ที่ 32.58 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยปีนี้นับจากต้นปี เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 9 เดือนที่ 31.44 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 28 มกราคม สอดคล้องกับการแข็งค่าของเงินหลายสกุลในภูมิภาค ขณะที่เงินดอลลาร์สหรัฐยังเผชิญกับแรงขายสวนทางการปรับตัวขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยง
นอกจากจะทำกำไรให้กับธนาคารพาณิชย์แล้ว เงินบาทที่แข็งค่ายังส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยว ปี 2562 โดยมีการประเมินว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติทะลักเข้าไทยกว่า 40 ล้านคน ทำรายได้เข้าประเทศกว่า 54,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.728 ล้านล้านบาท ขณะเดียวกัน คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางออกนอกประเทศ ประมาณ 10 ล้านคน เพราะค่าเงินบาทแข็งทำให้คนไทยมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งตรงจุดนี้จะทำให้มีเงินไหลออกประมาณ 5 แสนล้านบาท