เทคนิค “ลดหนี้”
“หนี้” ที่คนหนึ่งคนแบกรับไหวคือน้อยกว่า 50% ของรายได้
หมายความว่าถ้าเรามีรายได้เดือนละ 50,000 บาท ก็ไม่ควรมียอดชำระหนี้ทั้งหมด (หนี้บ้าน หนี้รถ หนี้บัตรเครดิต หนี้สหกรณ์ ฯลฯ) ไม่เกิน 25,000 บาท ไม่เช่นนั้น…อาการน่าเป็นห่วง!
แต่ถ้าเข้าสู่โหมดมีหนี้มากเกินกว่าศักยภาพในการผ่อนชำระแล้ว สิ่งสำคัญคือต้องรีบเข้าไปพูดคุยกับเจ้าหนี้ (สถาบันการเงิน) ก่อนที่จะถูกปรับสถานะให้กลายเป็น “ลูกหนี้ด้อยคุณภาพ” และนี่คือเทคนิค “ลดหนี้” ที่ควรนำไปปรับใช้
ลดดอก | ลดเงิน
หากมีหนี้อยู่ในสถาบันการเงินเดียว แต่มีหลายก้อน (หรือก้อนเดียว) วิธีการที่สามารถขอเจรจากับเจ้าหนี้ได้ก็คือการขอ “ลดดอกเบี้ย” เพื่อให้มีเงินเหลือไปใช้สำหรับการชำระเงินต้นมากขึ้น หรือการขอ “ลดจำนวนเงินต้นที่ผ่อนต่องวด” เพราะในบางช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง บรรดาเจ้าของกิจการอาจไม่มีรายได้ดีเฉกเช่นยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟู ทำให้การผ่อนชำระต่องวดที่สูงเกินไป กระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน ซึ่งโดยมากแล้วสถาบันการเงินผู้เป็นเจ้าหนี้ ยินดีผ่อนปรนเงื่อนไขเหล่านี้เป็นการชั่วคราว จนกว่าเศรษฐกิจจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
ยุบ | ย้าย
หากมีหนี้มากกว่า 1 ก้อน หรือมากกว่า 1 สถาบันการเงิน วิธีการที่สามารถนำไปพูดคุยกับสถาบันการเงินผู้เป็นเจ้าของหนี้ได้ก็คือ “ยุบ” หรือการนำหนี้ของสถาบันการเงินที่มีดอกเบี้ยสูงๆ มายุบรวมกับหนี้ของสถาบันการเงินที่มีดอกเบี้ยต่ำกว่า เพื่อให้สามารถผ่อนชำระได้ดีขึ้น (เพราะดอกเบี้ยน้อยกว่า) และมีโอกาสเป็นไทเร็วขึ้น หรืออีกวิธีก็คือการ “ย้าย” หรือการโยกสินเชื่อที่มีดอกเบี้ยสูง เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล (ที่ไม่มีหลักประกัน) มาเป็นสินเชื่อประเภทที่มีหลักประกัน หรือย้ายจากหนี้นอกระบบที่ดอกเบี้ยแสนโหด มาอยู่ในระบบ เพื่อเป้าหมายเดียวกับการยุบคือเพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำลง
ขยาย | ขาย
อีกหนึ่งวิธีที่สามารถใช้ในการเจรจากับเจ้าหนี้ได้ก็คือการ “ขยายระยะเวลาสัญญากู้เงิน” ซึ่งส่วนใหญ่มักจะทำควบคู่ไปกับการปรับลดดอกเบี้ย หรือปรับลดเงินต้นที่ผ่อนชำระในแต่ละงวด โดยระดับที่เหมาะสม (ยอดผ่อนต่องวด) สามารถพิจารณาได้จากกระแสเงินสดที่สามารถชำระได้ แต่หากถึงทางตันไม่มีแม้กระทั่งกระแสเงินสดก็สามารถใช้วิธีการ “ขายทรัพย์ประกันเพื่อชำระหนี้” โดยหากมีทรัพย์ประกันที่ติดจำนองหรืออายัดอยู่กับธนาคาร ก็สามารถเจรจาขอโอนทรัพย์เพื่อชำระหนี้ได้ และยิ่งดำเนินการได้เร็วก็จะทำให้การเสื่อมค่าของทรัพย์สินน้อยลง หรือหากเราเป็นผู้ดำเนินการขายเองได้ยิ่งดี เพราะมักได้ราคาที่ดีกว่าถูกบังคับขาย และยิ่งถ้าขายได้ราคาดี ก็ยังพอเหลือเงินสดไปตั้งต้นใหม่ได้อีกด้วย
กด Subscribe รอเลย…