×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

เคล็ดลับเลือกประกันรถยนต์สุดคุ้ม

3,346

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

การเลือกประกันรถที่ดี ควรเริ่มจาก “ความคุ้มครอง” ที่เหมาะกับลักษณะ “การใช้งานรถและการขับขี่” ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างกันในแต่ละคน มาดูกันว่าก่อนซื้อประกันรถต้องพิจารณาอะไรบ้าง เพื่อเลือกประกันภัยที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับเรา

 

ประกันรถคุ้มครองอะไรบ้าง

 

  1. คุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ของรถที่ทำประกัน เพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาลให้กับตนเองในฐานะผู้ขับขี่ และญาติพี่น้องในฐานะผู้โดยสาร
  2. คุ้มครองบุคคลภายนอก ซึ่งไม่ใช่ผู้ขับขี่ หรือญาติสนิทและลูกจ้างของผู้ขับขี่รถที่ทำประกัน โดยแบ่งเป็นความคุ้มครองชีวิต ค่ารักษาพยาบาล และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเหล่านั้น เพื่อบรรเทาความเสียที่เกิดขึ้นแทนผู้ขับขี่/เจ้าของรถในเบื้องต้น
  3. คุ้มครองตัวรถที่ทำประกัน โดยแบ่งเป็นคุ้มครองความเสียหายที่เกิดจากการชนกัน การสูญหายหรือไฟไหม้รถยนต์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม หรือจัดหารถใหม่ทดแทนรถเดิม

 

ปกติใช้รถอย่างไร

 

  1. ใช้รถน้อยและมีที่จอดประจำ เช่น ใช้รถเฉพาะไปเที่ยววันหยุด หรือใช้ขับไปทำงานทุกวันแต่ใกล้บ้าน ซึ่งมีความเสี่ยงในการชนต่ำ ยิ่งถ้าจอดรถในบ้านหรือที่ออฟฟิศเป็นหลักโดยไม่ได้จอดที่สาธารณะ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการสูญหายต่ำ จึงเหมาะกับประกันรถประเภท 3 ที่เน้นคุ้มครองเฉพาะผู้ขับขี่/ผู้โดยสารรถที่ทำประกัน และบุคคลภายนอก
  2. ใช้รถน้อยแต่ไม่มีที่จอดประจำ แม้มีความเสี่ยงในการชนต่ำ แต่หากต้องจอดรถนอกบ้านหรือที่สาธารณะ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่รถอาจสูญหายได้  จึงเหมาะกับประกันรถประเภท 2 ที่มีความคุ้มครองรถสูญหาย เพิ่มขึ้นจากประกันรถประเภท 3
  3. ใช้รถบ่อยแถมเพิ่งหัดขับ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะขับรถไปชนคันอื่นบนท้องถนน หรือแม้แต่การชนสิ่งของที่อยู่นิ่งๆ ที่แม้ไม่ใช่ความเสียหายร้ายแรง แต่ก็เกิดได้บ่อยครั้ง จึงเหมาะกับประกันรถประเภท 1 ที่มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมแทบทุกด้าน
  4. ใช้รถบ่อย แต่ไม่อยากจ่ายเบี้ยแพง จริงอยู่ว่าประกันรถประเภท 1 มีความคุ้มครองรอบด้านแต่ต้องแลกกับค่าเบี้ยที่สูง อีกทางเลือกสำหรับคนใช้รถบ่อยคือ เช็กการใช้รถของตนเองว่าเหมาะกับประกันรถประเภท 2 หรือประเภท 3 แล้วจึงเลือกเพิ่มความคุ้มครองการชนเฉพาะรถยนต์หรือยานพาหนะทางบก แต่ไม่คุ้มครองการชนสิ่งของอื่น ซึ่งก็คือประกันรถประเภท 2+ และประเภท 3+ ตามลำดับนั่นเอง

 

ทุกครั้งที่สตาร์ทรถ ความเสี่ยงก็เริ่มสตาร์ทเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ส่งผลต่อบุคคลภายนอก ผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ รวมถึงตัวรถก็ตาม การเลือกซื้อประกันที่ให้ความคุ้มครองเหมาะสมจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ขับขี่และเจ้าของรถยนต์ทุกคน

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats