1O สุดยอด หุ้นปันผล
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อตลาดหุ้นอยู่ในภาวะกระทิง “หุ้นปันผล” แทบจะไม่อยู่ในสายตาของนักลงทุน เพราะเกือบทุกคนมุ่งเน้นการลงทุนแบบเข้าเร็วออกเร็ว และให้ความสำคัญกับการทำกำไรจากส่วนต่างของราคาหุ้น (Capital gain) ตรงกันข้าม กับในช่วงที่ตลาดหุ้นเงียบเหงา หรือเป็นช่วงฤดูกาลจ่ายเงินปันผล หุ้นปันผลจะคึกคักและนักลงทุนเริ่มเก็บหุ้นดังกล่าวเข้าพอร์ต
อย่างไรก็ดี มีนักลงทุนกลุ่มหนึ่งที่นิยมลงทุนหุ้นปันผล เพราะมองว่าเป็นหุ้นที่ลงทุนแล้วสบายใจ ความเสี่ยงต่ำ เพราะมีเงินปันผลสม่ำเสมอ ที่สำคัญเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนเพื่อวัยเกษียณ จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้มีเงินออม
การลงทุนในหุ้นคือ การเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของกิจการ โดยคำว่าหุ้นปันผลต้องเป็นบริษัทที่มีกำไรระดับหนึ่งแล้วแบ่งปันผลกำไรในรูปเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น หมายถึงบริษัทได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่ามีผลประกอบการเติบโตที่ดีและสม่ำเสมอ
หุ้นปันผล ส่วนใหญ่มักเป็นธุรกิจที่เติบโตได้ในระดับหนึ่ง ขนาดของธุรกิจอยู่ในระดับกลางขึ้นไป ไม่ใช่ธุรกิจที่เพิ่งเริ่มต้นเปิดดำเนินการหรือกำลังทดสอบสินค้ากับตลาด หมายความว่า หุ้นปันผลมักจะมีการเติบโตมั่นคง แต่ไม่หวือหวา โดยผลกำไรส่วนหนึ่งจะเก็บไว้ใช้ในการดำเนินกิจการ อีกส่วนจะกันไว้จ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้น
ฝ่ายวิจัย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ศึกษาข้อมูลหุ้นปันผลปีนี้ พบว่ามีหุ้นที่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนอย่างสม่ำเสมอเป็นร้อยๆ บริษัท นั่นหมายความว่า หากเลือกหุ้นปันผลเก็บไว้ในพอร์ตให้ดีๆ จะได้รับเงินปันผลอย่างต่อเนื่อง
การศึกษาดังกล่าวเพื่อคัดเลือกหุ้นที่มีความเหมาะสมในการลงทุนระยะยาว ดังนั้น เงื่อนไขที่จะเป็นหุ้นปันผลจะต้องมีความสามารถในการทำกำไร คือมีกำไรสุทธิต่อเนื่องทุกปีตลอดช่วงเวลาที่ทำการศึกษา (ปี 2553 – 2559)
จากนั้นจะดูความอยู่รอดของธุรกิจ คือกระแสเงินสดต้องเป็นบวกทุกปี ซึ่งกระแสเงินสดมีความสำคัญมากเพราะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความสามารถจ่ายเงินปันผลหรือไม่ โดยให้ไปดูที่งบกระแสเงินสด ว่าบริษัทนั้นๆ มีกระแสเงินสดเป็นบวกหรือลบ
เพราะเมื่อทำธุรกิจและมีรายได้เข้ามา จะเป็นกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน ซึ่งผู้บริหารของบริษัทจะไปจัดสรรเงินดังกล่าวว่าจะนำไปทำอะไรบ้าง เช่น นำไปลงทุน นำไปจ่ายหนี้ หรือเป็นเงินปันผล ดังนั้น หากกระแสเงินสดติดลบ และคิดจะจ่ายปันผลก็คงต้องไปกู้เงินมาจ่ายปันผล ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ดีนัก
แน่นอนเมื่อคิดจะเป็นหุ้นปันผลก็ต้องจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นไม่ขาดตกบกพร่อง พูดง่ายๆ เลือกบริษัทที่เต็มใจจ่ายและมีความพร้อมในการจ่ายเงินปันผล โดยย้อนหลัง 5 ปี 7 ปีเพื่อดูว่ามีนโยบายจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอหรือไม่
ที่สำคัญหุ้นปันผลสม่ำเสมอมักมีคะแนนบรรษัทภิบาลอยู่ในระดับที่ดี สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริหารมีความจริงใจ โปร่งใสในการบริหารงาน ที่สำคัญไม่ทอดทิ้งผู้ถือหุ้น
จากการศึกษาช่วงเวลาปี 2553 – 2559 มีหุ้นที่ผ่านเกณฑ์ทั้งหมด 104 บริษัท และนี่คือ 10 สุดยอดหุ้นปันผลที่ให้อัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) สูงสุด
กด Subscribe รอเลย…