1O อันดับสุดยอดกองทุน Health Care
หลังจากนักลงทุนเห็นผลประการหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลประจำไตรมาส 1 ปี 2560 น่าจะผิดหวังไปตามๆ กัน หลายคนมีหุ้นกลุ่มนี้อยู่ในพอร์ตลงทุนหลัก (Core Portfolio) เพราะมองว่าเป็นหุ้นที่สามารถลงทุนในระยะยาว จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
ทว่า…หลังเห็นตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ปีนี้ก็เริ่มหวั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจในอนาคตของธุรกิจโรงพยาบาล หากเริ่มคิดในแง่ลบ ผลที่ตามมาคงหนีไม่พ้นการขายหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลออกไปเพื่อลดความเสี่ยง ขณะที่ใครกำลังมองหุ้นกลุ่มนี้เอาไว้ก็คงใช้กลยุทธ์ Wait & See
ขณะที่หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลกำลังถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับการเติบโต ในอีกมุมหนึ่งการลงทุนที่เกี่ยวกับธุรกิจกลุ่มการแพทย์กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นคือ กองทุนที่มีนโยบายไปลงทุนธุรกิจการแพทย์ในต่างประเทศ (Global Health Care) ซึ่งนักลงทุนอาจจะมองว่าแนวโน้มธุรกิจการแพทย์ระดับโลกยังเติบโตได้อีกยาวจึงแบ่งเงินลงทุนบางส่วนมาลงทุน นั่นหมายถึง การกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสสร้างผลตอบแทนในอนาคต (เพราะค่ารักษาพยาบาลก็แพงขึ้นทุกปี โดย economictimes.com รายงานว่าปี 2016 เงินเฟ้อค่ารักษาพยาบาลพุ่งขึ้นถึง 12.5%)
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ดัชนีผลตอบแทนโดยรวมของหุ้นกลุ่มการแพทย์ติดลบ 13%
หมายความว่าลงทุนหุ้นกลุ่มนี้ในวันที่ – 2559 และขายวันที่ – 2560 ขาดทุนทั้งหมด 13%
ขณะที่กองทุนรวม Global Health Care ในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งหมด 21 กองทุน มีถึง 15 กองทุนที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน เช่นเดียวกับกองทุนหุ้นกลุ่มการแพทย์ในต่างประเทศ เช่น Vanguard Health Care ETF, iShares Global Healthcare ETF, iShares Nasdaq Biotechnology ETF ให้ผลตอบแทนโดยรวม 10.83%, 8.88% และ 3.69% ตามลำดับ
ธนวัฒน์ ปัจฉิมกุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนต่างประเทศ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวถึงปัจจัยหลักสนับสนุนต่อธุรกิจการแพทย์ของโลกยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีในระยะยาว ได้แก่
- อายุเฉลี่ยของประชากรโลกมีแนวโน้มสูงขึ้น
- ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (ตามสัดส่วนประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้น)
- การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่สะดวกมากขึ้น และมีความต้องการที่ดีขึ้น (เพราะระดับรายได้ของประเทศและของประชากรเพิ่มสูงขึ้น)
จากแนวโน้มดังกล่าว ส่งผลให้กองทุนรวม Global Health Care ในประเทศไทยได้รับผลดีตามไปด้วย สังเกตจากผลการดำเนินงานออกมาในระดับน่าประทับใจ ดังนั้น น่าจะเป็นอีกทางเลือกเพื่อการจัดสรรเงินลงทุน (Asset Allocation)
อย่างไรก็ตาม ก่อนลงทุนควรอ่านข้อมูลโดยละเอียดของแต่ละกองทุนก่อนตัดสินใจลงทุน บวกกับผลงานในอดีตที่ผ่านมา ค่าธรรมเนียมต่างๆ และเมื่อลงทุนไปแล้วต้องติดตามข้อมูลข่าวสาร ผลงานกองทุนนั้นๆ อย่างสม่ำเสมอด้วย
กด Subscribe รอเลย…