ลงทุนสไตล์คนขี้เกียจ
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ความขี้เกียจมีอยู่ในทุกคน หากมีมากพอก็จะให้คนเราไม่ยอมเริ่มต้นลงทุนซะที จนในที่สุดส่งผลต่อความมั่งคั่งของตนเองในอนาคต ความขี้เกียจที่เห็นกันได้บ่อยในคนทั่วไป ได้แก่
ขี้เกียจหาข้อมูล
การลงทุนทุนแต่ละครั้งควรศึกษาข้อมูลให้ดี เช่น สถานการณ์ลงทุนปัจจุบัน รายละเอียดและผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของกองทุน ฯลฯ
แต่หากการหาข้อมูลนั้นยุ่งยากจนเป็นอุปสรรคต่อการเริ่มต้นลงทุน งั้นลองขี้เกียจหาข้อมูลสักหน่อย และเลือกดูกองทุนที่มีคนจัดลำดับไว้ให้ เช่น Morningstar Rating ที่มีการให้ดาวกองทุนไว้ 1-5 ดาว กองทุนไหนได้ดาวเยอะ ก็แสดงว่ายิ่งน่าลงทุน ซึ่งสามารถดูดาวที่ว่าได้ที่ www.morningstarthailand.com
แต่ก่อนจะดู Rating ที่ว่า อย่าลืมเช็กตัวเองก่อนว่าอยากลงทุนกองทุนแบบไหน หรือกองทุนแบบไหนที่เหมาะกับเรา เช่น กองทุนหุ้นไทย แบบมีนโยบายจ่ายเงินปันผล และไม่ใช้ลดหย่อนภาษี ฯลฯ จึงนำเงื่อนไขต่างๆ ที่ว่า ไปใช้กรองเพื่อหากองทุนที่ได้ 5 ดาว
ขี้เกียจรอคิว
อยากลงทุน แต่ไม่อยากออกจากบ้านเจอแดดร้อนๆ แถมต้องรอหลายสิบคิวกว่าจะได้ทำรายการซื้อกองทุนที่ธนาคาร หรือบางคนก็ต้องทำงานประจำจะแอบแวบไปธนาคารช่วงกลางวันก็ลำบาก
ถ้าขี้เกียจไปซื้อกองทุนที่สาขาธนาคาร ลองซื้อกองทุนผ่านธนาคารบนมือถือ (Mobile Banking) ที่ซื้อได้ทุกที่ แม้นอนอยู่บ้านหรือนั่งอยู่ที่ทำงานก็ตาม
เพียงแต่การทำรายการซื้อขายกองทุนบนมือถือของแต่ละธนาคารมีเงื่อนไขต่างกัน โดยเฉพาะการเปิดบัญชีกองทุนหรือซื้อกองทุนครั้งแรก ที่อาจจะต้องไปเปิดบัญชีที่สาขาธนาคารก่อน และหลังจากนั้นจึงซื้อขายผ่านมือถือได้ หรือบางธนาคารแม้เปิดบัญชีกองทุนผ่านมือถือได้ แต่เปิดได้เฉพาะ LTF/RMF ก่อน และหลังจากนั้นจึงจะสามารถซื้อขายกองทุนอื่นๆ บนมือถือได้
ขี้เกียจลงทุน
คนที่มีภารกิจหลายอย่างที่ต้องทำในแต่ละวัน จนบางครั้งอาจละเลยหรือลืมที่จะนำเงินที่มีอยู่ไปลงทุนให้งอกเงย
แนะนำให้สละเวลาสัก 2-3 นาที เพื่อตั้งรายการซื้อกองทุนล่วงหน้าในจำนวนเงินที่เท่ากันทุกเดือน ในวันที่ที่กำหนดไว้ ซึ่งการตั้งรายการซื้อที่ดีที่สุด ควรตั้งซื้อกองทุนในวันที่เงินเดือนออก เพื่อเป็นการสร้างวินัยเก็บเงินด้วยการทำรายการล่วงหน้าเพียงครั้งเดียว และยังเป็นการลงทุนตามหลัก Dollar Cost Averaging (DCA) อีกด้วย
การตั้ง DCA นั้น ควรเลือกจำนวนเงินลงทุนให้เหมาะสมกับรายรับ&รายจ่าย ของตนเอง เช่น 10%-20%ของเงินเดือน เพื่อไม่ให้เป็นภาระเกินไป เพราะบางกองทุนอาจมีข้อจำกัดในการขายคืนหรืออาจขาดทุนได้ในช่วงสั้นๆ หรือหากกองทุนที่ซื้อเป็นกองทุน LTF/RMF ก็ต้องคำนวณให้ดี อย่าให้ยอดซื้อรวมทั้งปีเกินสิทธิของตนเอง เช่น ควรตั้งไว้ที่ 10% ของเงินเดือนก่อน และช่วงปลายปีค่อยซื้อเพิ่มให้เต็มสิทธิภายหลัง
ลงทุนนั้นไม่ยาก แค่แบ่งเวลาจากการเล่น social network ไม่กี่นาที ก็ทำให้เงินที่มีอยู่ งอกเงยกว่าเดิมได้ง่ายๆ
