เหตุผลที่ควรลงทุน SSF ก่อน SSFX
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ปีนี้จะลงทุนกองทุน SSF หรือกองทุน SSFX อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแบ่งลงทุนทั้งสองอย่างดี คงเป็นคำถามคาใจของใครหลายคน
แต่หากพิจารณากองทุนทั้งสองอย่างให้ดีๆ แล้ว จะเห็นว่า SSF นั้นมีจุดเด่นกว่า SSFX ไม่น้อย ได้แก่
SSF มีสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลาย
SSFX เป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงสูง มูลค่าผันผวนทุกวัน ขาดทุนได้บ่อยครั้ง อีกทั้งยังมีความเสี่ยงจากการลงทุนที่กระจุกตัวในหุ้นไทยเป็นหลักด้วย
ส่วน SSF มีนโยบายการลงทุนที่หลากหลาย ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อสังหาริมทรัพย์ และตราสารหนี้ จึงสามารถเลือกลงทุนให้เหมาะกับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้
SSF เปลี่ยนสินทรัพย์ลงทุนได้
ทั้ง SSF และ SSFX ล้วนสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ เพียงแต่ SSFX ต้องสับเปลี่ยนใน SSFX ด้วยกันเท่านั้น ซึ่ง SSFX ทุกกองทุนล้วนเน้นลงทุนในหุ้นไทย จึงแทบไม่มีประโยชน์ที่จะสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน
ส่วน SSF นั้นมีนโยบายและสินทรัพย์ลงทุนที่หลากหลาย ระหว่างการถือครอง 10 ปี การสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจึงสามารถใช้เพื่อจับจังหวะทำกำไรหรือลดความเสี่ยงได้ เช่น สับเปลี่ยนจากหุ้นไทยไปตราสารหนี้ในช่วงที่หุ้นกำลังเข้าสู่ขาลง หรือสับเปลี่ยนจากหุ้นไทยไปหุ้นต่างประเทศในช่วงที่หุ้นต่างประเทศมีโอกาสสร้างผลกำไรได้ดีกว่า เป็นต้น
จากจุดเด่นของ SSF ที่ว่า น่าจะทำให้ได้ข้อสรุปทางเลือกการลงทุน SSF และ SSFX โดยแบ่งตามจำนวนเงินลงทุนได้ 3 กรณี ดังนี้
- น้อยกว่า 2 แสนบาท
สำหรับคนที่มีรายได้ทั้งปีเกิน 666,666 บาท ซึ่งสามารถลงทุนใน SSF ได้เต็มสิทธิ 2 แสนบาท (ตามฐาน 30%ของรายได้ทั้งปี) ควรเลือกลงทุน SSF เพียงอย่างเดียว ยังไม่ควรลงทุน SSFX
- ระหว่าง 2 – 4 แสนบาท
ควรให้น้ำหนักการลงทุนใน SSF ก่อน SSFX อีกทั้งควรกำหนดสัดส่วนหรือพอร์ตการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อประกอบการเลือก SSFX & SSF ด้วย
เช่น เงินลงทุน 300,000 บาท หากตั้งใจจัดพอร์ตโดยลงทุนตราสารหนี้ 60% (180,000 บาท) และหุ้นไทย 40% (120,000 บาท) กรณีนี้ควรเลือกลงทุน (a) SSF ที่เน้นตราสารหนี้ 180,000 บาท (b) SSF ที่เน้นหุ้นไทย 20,000 บาท และส่วนที่เกินกว่าสองแสนบาท ลงทุนใน (c) SSFX ที่เน้นหุ้นไทย อีก 100,000 บาท
โดยหากปีใดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นจนเงินลงทุนมีสัดส่วนหุ้นสูงเกิน 40% ก็สามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนจาก SSF ที่เน้นหุ้นไทย ไปยัง SSF ที่เน้นตราสารหนี้ เพื่อคงสัดส่วนการลงทุนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
- มากกว่า 4 แสนบาท
กรณีนี้แม้สามารถลงทุน SSF และ SSFX ได้เต็มสิทธิทั้งสองกองทุน แต่ก็ควรเลือกนโยบายการลงทุนของ SSF ให้เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุนของตนเองด้วยเช่นเดียวกัน
แต่หากสัดส่วนหุ้นที่เหมาะสมนั้นไม่ถึง 200,000 บาท การพิจารณาใช้สิทธิลงทุนในกองทุน RMF ที่เน้นตราสารหนี้ แทนกองทุน SSFX บางส่วน อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป .ซึ่งอีกไม่ถึง 10 ปี ก็มีอายุครบ 55 ปี โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนใน SSFX (หรือ SSF) ที่ต้องถือครอง 10 ปีเต็ม
กองทุน SSF ทางเลือกลดหย่อนภาษี ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้สอดคล้องกับความเสี่ยง ด้วยการจัดพอร์ตและปรับสัดส่วนการลงทุน ได้ตลอด 10 ปี