3 คำถามที่นักลงทุนหุ้นสงสัย
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ซื้อหุ้นตอนราคาแพง ถ้าราคาหุ้นปรับตัวลดลงมามากๆ ควรทำอย่างไร?
ก่อนอื่นบอกได้เลยว่านักลงทุนทุกคนทั่วโลกไม่ต้องการเห็นราคาหุ้นตัวเองถือปรับตัวลดลงและไม่ต้องการขายขาดทุน (Cut Loss) เมื่อเป็นเช่นนี้ส่วนใหญ่จะกัดฟันถือหุ้นต่อไปเพื่อหวังว่าในอนาคตราคาหุ้นจะปรับตัวสูงขึ้น หรืออย่างน้อยๆ เมื่อราคาขยับขึ้นใกล้ๆ ราคาต้นทุน ค่อยขายออกไป
การให้ความสำคัญกับราคาต้นทุนในลักษณะเช่นนี้ อาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะหลายๆ ครั้งการขาดทุนจากหุ้นแค่เพียงตัวเดียว อาจสร้างความเสียหายแก่พอร์ตโดยรวมได้ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำก็คือการคิดวิเคราะห์อย่างละเอียดรอบคอบก่อนจะซื้อและขาย เช่น…
- ผลกำไรของบริษัทมาจากหลายแหล่ง หรือไม่
- การดำเนินงานของบริษัทดีขึ้น หรือไม่
- ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไปในทางดีขึ้นเหมือนที่ประเมิน หรือไม่
ถ้าคำตอบคือ “ไม่ใช่” กลยุทธ์ที่ดี ก็คือ “ขายหุ้นออกไป” แม้จะขายขาดทุนก็ตาม จากนั้นค่อยมองหา หุ้นตัวใหม่ที่วิเคราะห์แล้วว่าน่าลงทุน และน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีมาทดแทน
ถ้าคำตอบคือ “ใช่” และมั่นใจว่าธุรกิจมีความแข็งแกร่งด้านปัจจัยพื้นฐาน มีอนาคต ในการดำเนินธุรกิจ กลยุทธ์การลงทุนที่ดีเห็นจะเป็นการ “ถือต่อ” เพื่อรอให้ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันข้างหน้า หรือถ้ามีเงินสด ในมืออาจจะเก็บหุ้นนั้นเพิ่ม
ถ้าราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น ควรขายทำกำไรหรือไม่?
นักลงทุนบางคนเมื่อเห็นราคาหุ้นที่ตัวเองลงทุนปรับตัวสูงขึ้น อาจด่วนตัดสินใจขาย เพื่อทำกำไร ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดอะไร เพราะกำไรก็ย่อมดีกว่าขาดทุน แต่จะดีกว่าหรือไม่… หากนั่งลงแล้วลองประเมินอนาคตของบริษัทว่าเป็นอย่างไร ตรวจสอบว่ามีแนวโน้ม เติบโตในระยะยาวเป็นอย่างไร ถ้าดูแล้วว่าผู้บริหารยังไว้ใจได้ ธุรกิจยังสามารถขยายตัว ได้ต่อเนื่อง ยังมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับหนึ่ง หรือคู่แข่งไม่สามารถแข่งขันได้ ก็อาจจะ พิจารณา ถือหุ้นต่อไป รออีกสักนิดอาจทำกำไรได้มากขึ้น หรือถ้ารู้สึกว่าอยากขาย ทำกำไรออก ไปก่อนอาจจะใช้กลยุทธ์ ทยอยขายเป็นล็อตๆ จะได้ราคาขายที่เป็นราคาเฉลี่ย ดีกว่าขายหมดครั้งเดียว
ราคาหุ้นปรับขึ้นไปถึงราคาเป้าหมายที่วางเอาไว้ ควรทำอย่างไร?
นักลงทุนที่ดีจะมีราคาเป้าหมายในใจไว้เสมอ และเมื่อราคาหุ้นขึ้นไปถึงเป้าหมายแล้ว จะตัดสินใจ ขายทันที แล้วนำเงินที่ได้ไปลงทุนในหุ้นตัวใหม่ พร้อมราคาเป้าหมายใหม่
แต่นักลงทุนบางคนอาจรู้สึกเสียดาย อยากถือหุ้นต่อไปแม้ราคาจะถึงเป้าหมายที่วางเอาไว้แล้วก็ตามหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้นักลงทุน ควรทำอย่างไร
ก่อนตัดสินใจขาย ลองประเมินมูลค่าของบริษัทว่าสามารถปรับเพิ่มขึ้นจากที่เคยประเมินเอาไว้ ก่อนหน้านั้น หรือไม่ เช่น ยอดขาย ต้นทุน ผลกำไรที่จะเกิดขึ้นในไตรมาสหรือปีถัดไป พิจารณา กระแสเงินสด นโยบาย การจ่ายเงินปันผล รวมไปถึงบทวิเคราะห์ว่ามีข้อมูลเชิงปัจจัยพื้นฐาน เปลี่ยนไปหรือไม่ ถ้าประเมินแล้ว พบว่า มูลค่าธุรกิจมีโอกาสปรับขึ้นไปได้ ดูดีมีอนาคต ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะ ถือหุ้นต่อไป
แต่หากเป็นนักลงทุนที่มีวินัยแบบสุดๆ แน่นอนเมื่อราคาถึงเป้าหมายก็จะต้องขายออกไป หากขายแล้วลองมาพิจารณาและประเมินธุรกิจ ดูใหม่ และมั่นใจมีอนาคตสดใส การกลับเข้ามาลงทุนอีกครั้ง ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
ไม่มีกฏเกณฑ์ใดๆ ตายตัวว่า… นักลงทุนควรจะซื้อ ถือ หรือขาย ขึ้นอยู่กับมุมมองที่นักลงทุนแต่ละคนมีต่อบริษัทนั้นๆ แม้จะลงทุนในหุ้นตัวเดียวกัน แต่หากมีมุมมองที่แตกต่างกันการตัดสินใจลงทุนก็ย่อมแตกต่างกันตามไปด้วย นักลงทุน จึงควรมีสติ พิจารณา และไตร่ตรองในทุกการตัดสินใจให้ดี อย่าให้อารมณ์ หรือความรู้สึก ตื่นเต้น ตกใจ มาครอบงำจนทำให้ตัดสินใจผิดพลาดในการลงทุน
ที่มาข้อมูล : https://www.set.or.th/set/education/html.do?name=decode_strategy_invest_27&innerMenuId=19
