“ประกันสุขภาพ” ที่เปลี่ยนวันที่ “ล้ม” ให้พร้อม “รุก”
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ตั้งแต่ปี 2563 ถึงปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่หลายคนเผชิญกับความเครียดจนชีวิตอาจมีล้มลง เพราะไม่เพียงรายได้ที่ลดลง แต่ยังต้องกังวลกับโรคที่แพร่ระบาดไม่หยุด จนถึงแม้ยังไม่ใช่ผู้ติดเชื้อแต่ก็เจ็บป่วยจากความเครียดสะสมได้ อีกทั้งบางคนยังต้องเปลี่ยนสถานะจากพนักงานออฟฟิศ มาเป็นอาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการแบบไม่ทันตั้งตัว ค่ารักษาพยาบาลที่เคยเบิกสวัสดิการได้ยามเจ็บป่วยกลับต้องควักเงินเก็บที่มีออกมาจ่ายเอง
วิกฤติช่วงปี 63 หากใครมีเงินเก็บมากพอพร้อมลงทุน ถือเป็นโอกาสทองทำกำไร เช่น หุ้นไทย หากลงทุนในวันที่ตลาดหุ้นลงต่ำสุดช่วง มี.ค. 63 เมื่อถึงสิ้นปีจะได้กำไรประมาณ 40% หรือหากเลือกลงทุนกองทุนต่างประเทศที่เน้นหุ้นเทคโนโลยีหรืออีคอมเมิร์ซที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ COVID-19 ก็มีหลายกองทุนที่ได้กำไรถึง 70%-100% แต่หากใครยังไม่พร้อมลงทุนหรือไม่มั่นใจในหน้าที่การงาน ก็ต้องให้ความสำคัญกับเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือนก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าหากขาดรายได้ทั้งตนเองและครอบครัวจะยังดำรงชีวิตต่อไปได้ หรือหากเจ็บป่วยก็ยังมีเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่หลายคนกังวล หากแค่เจ็บป่วยเล็กน้อยเงินเก็บที่มีก็คงเพียงพอ แต่หากเจ็บป่วยรุนแรงที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายหลักแสนหลักล้าน เงินเก็บที่มีอาจไม่พอจนชีวิตต้องล้มลง
ประกันสุขภาพวงเงินคุ้มครองสูงอย่าง “ประกันสุขภาพส่วนบุคคล Signature Care” จากซิกน่า ประกันภัย จึงเป็นตัวช่วยให้เราพร้อมลุกยืนและรุกไปข้างหน้าอีกครั้ง ด้วยเบี้ยประกันเริ้มต้น เดือนละไม่ถึง 2 พัน ก็มีวงเงินค่ารักษา 2 ล้านบาทต่อปี และยังมีแผนสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มครองมากขึ้น แค่เดือนละ 3 พันบาท ก็มีวงเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยในสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อปี และยังคุ้มครองทั้งอุบัติเหตุ เจ็บป่วยทั่วไป โรคร้ายแรงอย่างโรคมะเร็ง รวมถึงโรคพันธุกรรมด้วย อีกทั้งยังครอบคลุมการรักษาสมัยใหม่อย่าง “Targeted Therapy” “Immunotherapy Cancer Treatment” หรือการรักษาโดยแพทย์ทางเลือกอย่าง ฝังเข็ม แพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน ฯลฯ ซึ่งเพิ่มเติมจากประกันสุขภาพที่มีอยู่ทั่วไป
บางคนอาจคิดว่าเงิน 5 แสน – 5 ล้านบาท ไม่ใช่ปัญหาเมื่อเทียบกับเงินเก็บที่มี แต่จะดีกว่าไหมถ้านำแค่ดอกผลจากเงินเก็บประมาณ 0.7% – 2.5% ต่อปี* มาจ่ายเป็นค่าเบี้ย “ประกันสุขภาพส่วนบุคคล Signature Care” เพื่อที่เมื่อเจ็บป่วยก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ประกันสุขภาพมาจัดการค่าใช้จ่ายโดยไม่กระทบกับเงินเก็บที่มี หรือใครที่ไม่มีเงินเก็บมากมาย หากแค่แบ่งเงินหลักพันจากรายได้มาเป็นเบี้ยประกัน ก็ทำให้ชีวิตไม่ว่าล้มสักกี่ครั้งก็พร้อมตั้งต้นใหม่และรุกไปข้างหน้าได้เสมอ
* คำนวณจาก (1) เงินลงทุน 5 ล้านบาท ดอกผลปีละ 36,029 บาท (2) เงินลงทุน 5 แสนบาท ดอกผลปีละ 12,274 บาท เพื่อเป็นเบี้ย “ประกันสุขภาพส่วนบุคคล Signature Care” แผน 5 ล้านบาท และแผน 5 แสนบาทตามลำดับ สำหรับผู้เอาประกันอายุ 31-35 ปี
รายละเอียดเพิ่มเติม.. https://bit.ly/3txWU8E