×

Wealth Me Up ให้เงินทำงาน

ทางออกเงินฉุกเฉิน...มนุษย์เงินเดือนยุค COVID-19

3,494

 

ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…

Facebook | Line | Youtube | Instagram

 

สินเชื่อส่วนบุคคลเพย์เดย์ (Payday) คือ การกู้เงินกับผู้ให้กู้รายวัน โดยใช้บัญชีเงินเดือนเป็นหลักฐานว่ามีรายได้เข้าเป็นประจำทุกเดือนเพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อวันที่เงินเดือนออกผู้กู้จะชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย ผู้ให้กู้อาจเรียกเอาสมุดบัญชีธนาคารและบัตรเอทีเอ็ม ที่ผูกกับบัญชีเงินเดือนเพื่อเป็นหลักค้ำประกัน

 

ในปัจจุบันการให้กู้ลักษณะนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการกู้หนี้นอกระบบที่ไม่ใช้เอกสารการขอกู้ซับซ้อน ทำให้ผู้กู้เข้าถึงแหล่งเงินง่าย แต่ข้อควรพิจารณา คือ ผู้ให้กู้จะให้เงินกู้พร้อมหักค่าธรรมเนียม และเมื่อถึงวันชำระหนี้ ผู้กู้ต้องชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยจนครบ

 

ยกตัวอย่าง กรณีขอกู้เงินเป็นจำนวน 10,000 บาท ผู้ให้กู้อาจคิดค่าธรรมเนียมการจัดการ 500 บาท ผู้กู้จะได้รับเงินในวันกู้ 9,500 บาท (10,000 – 500 บาท) และเมื่อวันที่เงินเดือนออก ผู้ให้กู้จะคืนสมุดบัญชีหรือบัตรเอทีเอ็มและให้คนติดตามเพื่อให้ผู้กู้กดเอทีเอ็มหรือเบิกเงินจากบัญชีเพื่อส่งคืน

 

การให้กู้ลักษณะนี้จะคิดดอกเบี้ยเป็นรายวันและดอกเบี้ยสูงมาก เช่น 20% ต่อวัน หมายความว่า วันจ่ายหนี้ต้องคืนเงินต้น 10,000 บาท บวกดอกเบี้ย 20% ต่อวัน แสดงว่าต้องจ่ายดอกเบี้ยตกวันละ 2,000 บาท หากกู้เป็นจำนวน 10 วัน เท่ากับต้องจ่ายคืนเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยรวม 30,000 บาท (เงินต้น 10,000 บาท ดอกเบี้ย 20,000 บาท) 

 

ดังนั้น ผู้กู้ที่จะทำการกู้เงินในลักษณะนี้จะต้องพึงระวังเป็นอย่างมาก เพราะสุดท้ายแล้วดอกเบี้ยสูงมากจนไม่สามารถจ่ายคืนได้ จึงเป็นเรื่องยากที่จะจ่ายคืนทั้งหมดได้ และกลายเป็นหนี้ยาวนานที่จ่ายได้เพียงดอกเบี้ยรายวันเท่านั้น

 

หากจำเป็นต้องใช้เงินฉุกเฉินจริง ๆ ขอให้พิจารณาแหล่งเงินกู้ที่น่าเชื่อถือ เพราะปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตราการขอให้สถาบันการเงิน ผ่อนผันอัตราดอกเบี้ยเพื่อบรรเทาหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล กรณีเปลี่ยนเป็นหนี้ระยะยาวเกินกว่า 48 งวด โดยบัตรเครดิต 12% และสินเชื่อส่วนบุคคล 22% ต่อปีตั้งแต่งวดแรก

 

หากพิจารณาให้ดีจะเป็นอัตราดอกเบี้ยต่อปี (ไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยรายวัน) ดังนั้น จำนวนเป็นหนี้จะลดลงอย่างมาก ซึ่งสถาบันการเงินจะมีสินเชื่อโอนหนี้ คือ เป็นการรวบหนี้จากทุกแห่งทั้งในและนอกระบบ ทำให้ลูกหนี้จ่ายหนี้ที่เดียวกับสถาบันการเงินนั้น ๆ โดยมีอัตราดอกเบี้ยตามเกณฑ์ของ ธปท. และอาจมีอัตราการผ่อนชำระนานขึ้น ทำให้ลูกหนี้ไม่ต้องตามจ่ายหนี้หลายแห่งและมีความเสี่ยงผิดนัดชำระ วิธีจะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้หลุดจากวงจรหนี้ดอกเบี้ยโหดได้ในที่สุด

 

อีกวิธีหนึ่งที่ภาครัฐได้ออกมาตราการมาช่วยเหลือลูกหนี้ที่ไม่ได้ต้องการเงินก้อนใหญ่ แต่ต้องการเงินมาหมุนในระยะเวลาสั้น ๆ และมีสินทรัพย์ไปค้ำประกันได้ คือ การใช้บริการโรงรับจำนำ (สถานธนานุบาลหรือธนานุเคราะห์) เช่น นำของไปจำนำสำหรับเงินต้นไม่เกิน 5,000บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 0.10% ต่อเดือน สำหรับเงินต้น 5,001 – 15,000 บาท อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 0.80% ต่อเดือน และสำหรับเงินต้นเกิน 15,000 บาท จะมีอัตราดอกเบี้ย 1% ต่อเดือน วิธีการนี้ มีอัตราดอกเบี้ยไม่สูงมากและไม่ต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่สูงอันจะเป็นภาระทั้งการถูกติดตามหนี้ ที่จะทำให้เสียทั้งสุขภาพจิตและมีผลต่อร่างกายในที่สุด

 

 

#WealthMeUp

Related Stories

amazon anti fatigue mats