3 ถ. เทคนิคลงทุน…ในยุคตลาดผันผวน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ในช่วงที่ตลาดผันผวน ไม่ว่าจะเกิดจากวิกฤติเศรษฐกิจ สถานการณ์โรคระบาด เศรษฐกิจชะลอตัว เงินเฟ้อ การขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไปจนถึงความตึงเครียดทางการเมืองที่อาจนำไปสู่ภาวะสงคราม เชื่อว่านักลงทุนคงมีความกังวลว่าจะบริหารจัดการเงินออมและเงินลงทุนอย่างไรดี ยิ่งในช่วงที่ตลาดหุ้นปรับลดลงอย่างรวดเร็ว กลยุทธ์ 3 ถ. จะช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและรอบคอบมากขึ้น
หากเชื่อในคำว่า “ทุกวิกฤติ ย่อมมีโอกาส” อาจใช้จังหวะที่ตลาดผันผวนศึกษาข้อมูล เรียนรู้เทคนิครับมือเพื่อมองหาโอกาสลงทุน สำหรับมือใหม่ลองใช้กลยุทธ์ 3 ถ. มาช่วยตัดสินใจ
ถ.ถือต่อไป
ในช่วงตลาดหุ้นปรับลดลง อาจกระทบกับหุ้นบางตัว บางกลุ่มอุตสาหกรรม หรือกระทบแค่ตลาดหุ้นบางประเทศเท่านั้น ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำ คือ มองหาสาเหตุของความผันผวน โดยถ้าเกิดจากหุ้นบางตัว บางกลุ่มอุตสาหกรรม หรือบางประเทศที่ไม่ได้เข้าไปลงทุน หรือได้รับผลกระทบระยะสั้นและตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้วแต่มาเร็วหรือมาแรงกว่าที่คาด
สถานการณ์ลักษณะนี้จะไม่กระทบกับนักลงทุนที่จัดพอร์ตลงทุนโดยมีหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว หรือพอร์ตที่กระจายการลงทุนไว้อย่างเหมาะสม ดังนั้น เมื่อหุ้นบางตัวในพอร์ตปรับลดลงก็จะมีหุ้นตัวอื่น ๆ หรือสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ ไม่ได้รับผลกระทบหรือบางครั้งอาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ผันผวนอีกด้วย เช่น สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย ยูเครน สหรัฐอเมริกา และยุโรป ตลาดหุ้นปรับลดลง แต่ราคาทองคำและน้ำมันปรับขึ้นอย่างรวดเร็ว
คำแนะนำ: ควรถือเพื่อลงทุนต่อไป หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ไม่ต้องทำอะไร ใจเย็น ๆ ไม่ต้องหวั่นไหว เพราะสถานการณ์ลักษณะนี้ อีกไม่นานตลาดจะฟื้นตัวกลับมา
ถ.ถัวเฉลี่ยต้นทุน
เมื่อเห็นราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ลงทุนปรับลดลง คำแนะนำ คือ ลงทุนเพิ่ม เพราะเป็นจังหวะ “ได้ซื้อของดีในราคาถูก” โดยให้ดูว่าหุ้นหรือสินทรัพย์นั้นมีโอกาสเติบโต เพิ่มมูลค่าในระยะยาวหรือไม่ เช่นเดียวกับการลงทุนในกองทุนรวม ให้ดูที่นโยบายการลงทุนว่า กองทุนรวมนั้นลงทุนในสินทรัพย์ที่มีโอกาสเติบโตหรือไม่ โดยการลงทุนเพิ่มในจังหวะที่ราคาปรับลดลง ถือเป็นการเฉลี่ยต้นทุน ดังนั้น กลยุทธ์นี้เป็นการมองทุกวิกฤติ คือ โอกาสในการเก็บของดีเข้าพอร์ตลงทุน
คำแนะนำ: กลยุทธ์ถัวเฉลี่ยต้นทุน จะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่เดือดร้อนก็ต่อเมื่อมีสภาพคล่องเหลือเฟือหรือมีเงินสดเพียงพอ เพื่อรอโอกาสจับจังหวะลงทุนในช่วงตลาดผันผวน
ถ.ถอยขายตัดขาดทุน
กลยุทธ์นี้จะตรงกันข้ามกับกลยุทธ์ถัวเฉลี่ยต้นทุน เพราะแทนที่จะลงทุนเพิ่มก็เป็นการขายออกเพื่อตัดขาดทุน แต่จะใช้กลยุทธ์นี้ในช่วงไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับทิศทางการลงทุนและผลกระทบที่เกิดขึ้น เช่น มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาแทนที่ หากธุรกิจไม่สามารถปรับตัวได้หรือไม่เปลี่ยนแปลงก็อาจทำให้ล้าสมัยและไม่น่าสนใจลงทุนอีกต่อไป ในบางกรณีอาจเกิดกับกลุ่มอุตสาหกรรมหรือบางประเทศ และประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจในระยะยาว
คำแนะนำ: หากนักลงทุนมีหุ้นดังกล่าวในพอร์ตและเห็นราคาเริ่มปรับลดลง และประเมินแล้วว่าไม่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ ก็ต้องพิจารณาเป้าหมายการลงทุนว่าเป็นระยะยาวหรือไม่ โดยถ้ามั่นใจว่าเป็นธุรกิจที่ไม่มีโอกาสฟื้นตัว ก็ขายตัดขาดทุน แล้วย้ายเงินลงทุนไปลงทุนในหุ้นหรือสินทรัพย์อื่นที่มีโอกาสเติบโตในระยะยาว เช่นเดียวกับการลงทุนในกองทุนรวม ก็ต้องสับเปลี่ยนไปลงทุนในกองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์
ในช่วงที่ตลาดผันผวน ราคาหุ้นหรือสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ ผันผวนอย่างรวดเร็ว อย่าเพิ่งตกใจและตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ควรตั้งสติและศึกษาข้อมูล โดยเริ่มจากดูว่าความผันผวนนั้นมาจากปัจจัยอะไร กระทบต่อราคาหุ้น และสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ รวมถึงพอร์ตลงทุนมากแค่ไหน จากนั้นให้เลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับพอร์ตการลงทุน สถานการณ์ลงทุน และความสามารถในการรับความเสี่ยงของตนเอง
หมายเหตุ : บทความนี้เพื่อใช้สำหรับศึกษาเบื้องต้นเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการชี้นำการลงทุนแต่อย่างใด นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนตัดสินใจลงทุน