7 ระดับ อิสรภาพทางการเงิน
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
Grant Sabatier ผู้เขียนหนังสือ “Financial Freedom” เขาเป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จตามแนวคิด FIRE movement — ซึ่งย่อมาจาก “financial independence, retire early” เป็นคนที่มีอิสรภาพทางการเงิน และเกษียณอายุได้เร็ว
Grant Sabatier ได้บอกว่า ‘ทุกๆ ดอลลาร์ที่คุณประหยัดได้ จะทำให้คุณมีอิสระและทางเลือกในชีวิตมากขึ้น’ ‘ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะออมเงินและลงทุนได้แค่ไหน’
Grant Sabatier ได้แบ่งอิสรภาพทางการเงินเป็น 7 ระดับ
ระดับที่ 1: Clarity “ชัดเจน”
ขั้นตอนแรกคือ ตรวจสอบสถานะทางการเงินของตัวเอง ว่ามีเงินเท่าไหร่? มีหนี้เท่าไหร่? และเป้าหมายของคุณคืออะไร? Sabatier กล่าวไว้ว่า ‘คุณจะไม่สามารถข้ามระดับอิสรภาพทางการเงินไปได้ หากวันนี้คุณไม่รู้ว่าคุณอยู่จุดไหน’
ระดับที่ 2: Self-Sufficiency “พึ่งพาตนเองได้”
มีรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆ ระดับนี้คุณอาจใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนหรือมีภาระหนี้สินอยู่บ้าง แต่ไม่จำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากใคร เช่น ขอเงินจากพ่อแม่
ระดับที่ 3: Breathinh Room “พอมีเหลือ”
คนในระดับนี้ จะมีเงินเหลือหลังจากหักค่าใช้จ่ายจำเป็น หักภาระหนี้สิน และสามารถนำเงินที่เหลือไปใช้ตามเป้าหมายได้ เช่น เก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน ลงทุนเพื่อเกษียณ
การหนีจากระดับ 2 ได้ หมายถึงการให้โอกาสทางการเงินกับตัวเอง และไม่ได้หมายความว่าจะต้องได้รับเงินเดือนที่มากเสมอไป จากรายงานของ MagnifyMoney 31% ของชาวอเมริกัน ทำงานได้เงินมากกว่า $100,000 ก็ยังใช้เงินแบบเดือนชนเดือนหรือยังอยู่ระดับที่ 2
Sabatier กล่าวไว้ว่า ‘เพียงเพราะคุณทำงานได้เงินมาก ไม่ได้หมายความว่าคุณจะเก็บออมได้มาก’สิ่งสำคัญคือ การจัดการค่าใช้จ่าย
ระดับที่ 4: Stability “อุ่นใจ-มั่นคง”
ผู้ที่มาถึงระดับ 4 จะมีเงินสำรองฉุกเฉิน 6 เดือน การมีเงินเก็บสำรองฉุกเฉิน ช่วยให้มั่นใจว่าการเงินจะไม่มีปัญหาเมื่อเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดขึ้น
Sabatier กล่าวไว้ว่า ‘ในระดับนี้ คุณจะไม่กังวลว่าจะตกงาน หรือต้องย้ายไปอยู่เมืองอื่น’และสิ่งที่จะช่วยให้ถึงเป้าหมายเร็วขึ้นคือ การตัดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น เช่น ค่าฟิตเนส
ระดับที่ 5: Flexibility “ยืดหยุ่น”
เป็นระดับที่คุณมีเงินออมหรือลงทุนเพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ อย่างน้อย 2 ปี และคุณสามารถที่จะหยุดพักงาน 1 ปีได้ โดยไม่กระทบภาะระค่าใช้จ่าย
โดยเงินก้อนนี้ที่จะทำให้เรามีความยืดหยุ่นนั้นอาจจะเป็นเงินในบัญชีเงินฝากหรือเงินจากการการลงทุน เช่น กองทุนรวม หุ้น อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
ระดับที่ 6: Financial Independence “มีอิสระทางการเงิน”
คนที่ได้รับอิสรภาพทางการเงินสามารถใช้ชีวิตได้โดยไม่ต้องทำงาน เนื่องจากมีรายได้จากการลงทุนหรือมี Passive Income
คุณอาจจะมีเงินก้อนโตในพอร์ตการลงทุน ที่สร้างผลตอบแทนและให้ดอกผลเพียงพอกับค่าใช้จ่าย หรือคุณอาจจะมีอสังหาริมทรัพย์ที่ปล่อยให้เช่า และได้รับค่าเช่า ทำให้สร้างรายได้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ระดับที่ 7: Abundant Wealth “เหลือๆ”
ในขณะที่ผู้ที่อยู่ในระดับ 6 ยังจำเป็นต้องคอยติดตามความความผันผวนในพอร์ตของพวกเขา เพื่อให้แน่ใจว่าการเกษียณอายุของพวกเขานั้นยังคงเป็นไปตามแผน แต่ผู้ที่อยู่ในระดับ 7 ไม่จำเป็นต้องกังวลกับปัญหานี้ ผู้ที่อยู่ระดับ 7 นี้ มีความมั่งคั่งอย่างมาก มีเงินมากเกินพอที่ต้องการ และไม่ต้องกังวลเรื่องตลาดผันผวน
และนี่เป็นระดับที่ Sabatier อยู่และเป็นระดับที่อยากให้ทุกคนอยู่ระดับนี้เช่นเดียวกัน หากคุณยินดีที่จะเปลี่ยนทัศนคติเรื่องเงิน