1O หุ้น ยอดขาย กำไร เติบโตไม่สะดุด
ใช้แรงทำเงิน & ให้เงินทำงาน กด Subscribe รอเลย…
Facebook | Line | Youtube | Instagram
ก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น ข้อมูลอันดับต้น ๆ ที่นักลงทุนดูเพื่อประเมินว่าเป็นหุ้นพื้นฐานแข็งแกร่งหรือไม่ คือ ยอดขาย (หรือรายได้) และกำไรสุทธิ เพราะถ้ามีพื้นฐานแข็งแกร่งก็มีโอกาสที่จะสามารถสร้างการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และทนทานต่อทุกสภาวะ และเมื่อลงทุนแล้วมีโอกาสที่ดีที่จะได้รับผลตอบแทนทั้งในรูปแบบเงินปันผลและราคาหุ้นที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น
ปฏิเสธไม่ได้ว่า “ยอดขาย (หรือรายได้)” และ “กำไรสุทธิ” ซึ่งอยู่ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จหรืองบกำไรขาดทุน ซึ่งงบนี้มีข้อมูลสำคัญ คือ ยอดขาย (หรือรายได้) ค่าใช้จ่าย และกำไร (ขาดทุน) ซึ่งจะมีความสัมพันธ์กัน
ยอดขาย (หรือรายได้) – ค่าใช้จ่าย = กำไร (ขาดทุน)
ยอดขาย (หรือรายได้) มากกว่า ค่าใช้จ่าย ผลลัพธ์คือ กำไร
ยอดขาย (หรือรายได้) น้อยกว่า ค่าใช้จ่าย ผลลัพธ์คือ ขาดทุน
ยอดขาย (หรือรายได้) คือ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการดำเนินธุรกิจ โดยงบกำไรขาดทุนจะบอกว่าบริษัทมีรายได้จากไหน เมื่อมียอดขาย (หรือรายได้) เข้ามา จะทำให้มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น ดังนั้น ยอดขาย (หรือรายได้) ถือเป็นรายได้หลักของบริษัท ดังนั้น บริษัทที่ดีที่น่าลงทุนควรมียอดขาย (หรือรายได้) เติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะจะสะท้อนว่าธุรกิจนั้นยังมีโอกาสเติบโตและในอนาคตยังคงมียอดขาย (หรือรายได้) เพิ่มขึ้นได้อีก
ในเบื้องต้น บริษัทที่ดีที่น่าลงทุนควรมียอดขาย (หรือรายได้) เติบโตต่อเนื่อง เช่น เติบโต 5 ปีติดต่อกัน เพื่อเป็นตัวบ่งบอกว่าบริษัทยังเติบโตต่อได้และยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว ซึ่งประเมินได้ว่าในอนาคตบริษัทยังคงมียอดขาย (หรือรายได้) เพิ่มมากขึ้น
สำหรับกำไรสุทธิ คือ รายได้สุทธิ ซึ่งจะช่วยบอกมูลค่าผลการดำเนินงานหลังรวมหรือหักรายการทั้งหมดในงบกำไรขาดทุนเรียบร้อยแล้ว เป็นตัวเลขที่มีประโยชน์สำหรับนักลงทุนในการประเมินยอดขาย (หรือรายได้) ที่มากกว่าค่าใช้จ่าย และเป็นตัวบ่งบอกความสามารถในการทำกำไรของบริษัท
รายได้รวม – ค่าใช้จ่ายรวม = กำไรสุทธิ
กำไรสุทธิมากกว่า 0 เท่ากับ บริษัทมีผลการดำเนินงาน กำไรสุทธิ
กำไรสุทธิน้อยกว่า 0 เท่ากับ บริษัทมีผลการดำเนินงาน ขาดทุนสุทธิ
โดยการดำเนินธุรกิจที่ดี ธุรกิจควรสร้างกำไรสุทธิให้เติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ เพราะแสดงถึงความสามารถในการบริหารงาน ทั้งในด้านการควบคุมต้นทุนการผลิต การตลาด การแข่งขัน ระดับหนี้สิน และความเอาใจใส่ของทีมผู้บริหารต่อการดำเนินธุรกิจ
ในเบื้องต้น บริษัทที่ดีที่น่าลงทุนควรมีกำไรสุทธิเติบโตต่อเนื่อง เช่น เติบโต 5 ปีติดต่อกัน ที่สำคัญควรมาจากการขายสินค้าและบริการหลักของบริษัท ซึ่งจะส่งผลดีกับบริษัทในระยะยาว เพราะเป็นรายได้ที่เกิดขึ้นประจำ
โดยทฤษฎีแล้วถ้าบริษัทมีการเติบโตด้านผลการดำเนินงาน ราคาหุ้นจะปรับขึ้นตามและมีโอกาสได้รับเงินปันผลอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยอดขาย (หรือรายได้) และกำไรสุทธิเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาซื้อหุ้นเท่านั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน นักลงทุนต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย